แนะนำ 5 วิธี เลือกลงทุนในทองคำเพื่อเก็งกำไร ประจำปี 2566

ปัจจุบันโลกของเราพัฒนาไปไกลมาก และทองก็สามารถลงทุนเป็นทองคำดิจิทัลได้แล้วด้วย คล้าย ๆ กับการซื้อ-ขายสัญญาส่งมอบทองคำ ค่าธรรมเนียมถูกกว่าค่ากำเหน็จเยอะเลย ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและลง แถมยังมั่นใจได้ว่าเป็นทองคำแท้ ๆ แน่นอน วันนี้ในบทความของเราจะมาแนะนำวิธีการเลือกลงทุนปัจจุบันโลกของเราพัฒนาไปไกลมาก และทองก็สามารถลงทุนเป็นทองคำดิจิทัลได้แล้วด้วย คล้าย ๆ กับการซื้อ-ขายสัญญาส่งมอบทองคำ ค่าธรรมเนียมถูกกว่าค่ากำเหน็จเยอะเลย ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและลง แถมยังมั่นใจได้ว่าเป็นทองคำแท้ ๆ แน่นอนวันนี้ในบทความของเราจะมาแนะนำวิธีการเลือกลงทุนทองคำ เพื่อเก็งกำไรต้อนรับปี 2566 ไปดูในบทความกัน

มือใหม่หัดลงทุนทองคำ

  • ศึกษาข้อมูลก่อนเริ่มลงทุน
  • ติดตามข่าวสารอยู่ตลอดเวลา
  • มีวินัยในการลงทุน
  • การประเมินตนเอง
  • ควรทดลองการเทรดก่อนลงสนามเทรดจริง
  • บริหารการลงทุนและกระจายความเสี่ยง

ทำไมการลงทุนทองคำจึงเป็นที่นิยมในไทย?

อย่างที่เรารู้กันดีว่าทองคำเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่คนไทยคุ้นเคยมากที่สุด ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์หนึ่งที่ผู้คนต้องการซื้อเพิ่มสูงขึ้นในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และช่วงต้นปี 2566 ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทองคำถือเป็นของขวัญล้ำค่า จึงมีการซื้อเป็นของขวัญให้แก่กันเพื่อเสริมสิริมงคล ทำให้ความต้องการทองคำคึกคัก และเทศกาลปีใหม่ที่เป็นเทศกาลแห่งความสุขของคนไทยที่กำลังมาถึง ของขวัญชิ้นหนึ่งที่ถูกพูดถึงมากขึ้นมาตลอดก็คือ “ทองคำ” อาจจะเป็นเพราะด้วยทองคำนั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงความเป็นสิริมงคลที่เชื่อว่าช่วยเสริมให้ชีวิตเฮงขึ้นและร่ำรวยยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใช้ทองเป็นเครื่องประดับ ก็เป็นสิ่งที่แสดงถึงฐานะด้วย 

เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่มูลค่าไม่ลดลงมากในยามวิกฤต มีความปลอดภัยสูง และคนนิยมลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน ปัจจุบันการลงทุนทองคำมีหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกลงทุนในทองคำได้ดังหัวข้อด้านล่างต่อไปนี้เลยค่ะ

5 วิธี เลือกลงทุนในทองคำเพื่อเก็งกำไร

วิธีการออมต่อไปนี้เป็นหัวข้อที่ผู้เขียนเองคัดเลือกมาให้แล้ว ว่าเป็นวิธีการออมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ในเหล่านักลงทุนมองว่าเป็นสิ่งที่คุ้มค่าและได้กำไรแน่นอน แต่ก็อย่าลืมว่าในแต่ละหัวข้อการลงทุนก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไปนะคะ

  • ทองคำรูปพรรณหรือทองคำแท่ง (Physical Gold)

เป็นการเดินเข้าไปร้านทองเพื่อทำการซื้อทองคำรูปพรรณหรือทองคำแท่งมาเก็บไว้ เพื่อเก็งกําไรในอนาคตเป็นวิธีลงทุนที่ได้รับความนิยมมานานมากจนถึงปัจจุบันก็ยังมีอยู่ เพราะมีขั้นตอนการลงทุน   แสนง่าย เริ่มต้นติดต่อร้านทองที่ให้บริการ เช็คราคาทองคำ แจ้งน้ำหนักทองคำที่ต้องการซื้อ ชำระเงิน แล้วรับทองคำมาเก็บไว้ เมื่อราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่คุณต้องการค่อยนำทองคำไปขายเปลี่ยนเป็นเงินและกำไรจากส่วนต่างของราคาทองคำ 

จุดเด่นจุดด้อย
สามารถจับต้องและควบคุมเองได้สามารถซื้อขายได้ที่ร้านทองเท่านั้น
  • สมุดออมทองคำ (Gold Passbook)

Gold Passbook เป็นวิธีเก็บเงินหรือการออมเงินอีกวิธีหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นการออมเงินระยะยาวเพื่ออนาคตได้อีกด้วย แม้จะใช้เงินซื้อมาก็จริงแต่จะถูกเก็บไว้ในรูปแบบของทองคำออนไลน์ ซึ่งทองออนไลน์ที่ว่านี้สามารถถอนทองคำออกมาจากระบบ ลูกค้าสามารถถือทองคำแท่งได้จริง เพียงสะสมยอดการออมให้ครบตามเงื่อนไขของบริษัทกำหนดแค่นี้เลย และปัจจุบันธนาคารขนาดใหญ่หลายแห่งสามารถเปิดบัญชีเงินฝากทองคำได้ เช่น ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย ที่สามารถออมทอง ซื้อ-ขายทองออนไลน์แบบครบวงจรกันเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ดี วิธีซื้อทองเก็งกำไรรูปแบบนี้ยังคงมีข้อจำกัดในแง่ที่มีร้านทองที่ให้บริการออมทองอยู่ไม่กี่เจ้า และต้องทำรายการผ่านระบบออนไลน์เป็นส่วนใหญ่จึงอาจไม่เหมาะกับคนบางส่วนที่ไม่เน้นการใช้เทคโนโลยี

จุดเด่นจุดด้อย
สามารถทยอยสะสมทองคำด้วยเงินทุนก้อนน้อย ๆ เพียงหลักร้อยก็สามารถเป็นเจ้าของทองคำได้ขายคืนง่ายอาจมีค่าธรรมเนียมในการดูแลไม่มีดอกเบี้ยเงินฝาก
  • โกลด์ฟิวเจอร์ส (Gold Futures)

Gold Futures หรือการลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ ที่สามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ และใช้เงินลงทุนน้อย อีกทั้งราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่สัมพันธ์กับราคาหุ้น ดังนั้น Gold Futures จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุน เพื่อโอกาสทำกำไรและกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุน ใช้เงินลงทุนน้อย ยังไม่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวนในครั้งแรก เพียงแต่ต้องวางหลักประกันก่อน

เช่น ทองคำ 10 บาท ราคาบาทละ 30,000 บาท ไม่จำเป็นต้องใช้เงินถึง 300,000 บาท แต่ใช้เงินแค่ 10% หรือเพียง 30,000 บาทที่เรียกว่าวาง Margin ในการซื้อสัญญาทอง 10 บาท มูลค่า 300,000 บาท แล้วนำเงินที่เหลือ 270,000 บาทไปฝากเอาดอกเบี้ย เมื่อราคาทองปรับขึ้นไป เป็นบาทละ 31,000 บาท ก็ขายสัญญาฟิวเจอร์สทอง 10 บาทนั้น ได้เงินกลับมาทั้งหมด 40,000 บาท เป็นกำไร 10,000 บาทเช่นกัน ขณะที่เงิน 270,000 บาทก็ยังนำไปฝากได้ดอกเบี้ยอยู่

จุดเด่นจุดด้อย
สามารถซื้อขาย Gold Futures ได้เกือบ 24 ชั่วโมงต่อวันสามารถซื้อขายด้วยเลเวอเรจที่สูงขึ้นได้ต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการลงทุนใน Futures เนื่องจากขนาดของสัญญามีแนวโน้มที่ค่อนข้างใหญ่
  • อีทีเอฟทองคำ (Gold ETF)

กองทุนรวมเปิดที่จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ทีมีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่อ้างอิงกับ ทองคํา หรืออาจจะลงทุนโดยตรงในทองคําแท่งก็ได้ผู้ลงทุนที่ลงทุนใน Gold ETF จะไม่มีภาระในเรื่องการถือครองทองคําแท่ง ซึ่งมีสภาพคล่องมากกว่า และมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการซื้อทองจริง โดยผลตอบแทนของกองทุนนี้ Gold ETF จะเปลี่ยนไปตามราคาทองคําแท่งในตลาดโลก กองทุนรวมอีทีเอฟทองคําจึงนับเป็นเครื่องมือการลงทุนในทองคําที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้ลงทุนสมัยใหม่ที่ต้องการลงทุนในทองคําได้อย่างสะดวก รวดเร็ว

จุดเด่นจุดด้อย
สามารถกระจายความเสี่ยงในตราสารต่างๆ ได้ทันทีซื้อ-ขาย Real Time เหมือนกับหุ้นตัวหนึ่ง เลือกราคาที่อยากซื้อและขายได้ค่าธรรมเนียมต่ำการซื้อขาย ETF จะต้องเสียค่าคอมมิชชั่นในขณะที่ถือครองบ้างเล็กน้อยกองทุน ETF ทองคำบางตัว อาจมีปัญหาสภาพคล่อง
  • ทองคำ CFD

CFD ย่อมาจาก Contract for Difference (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) เป็นสัญญาทำการซื้อขายส่วนต่างในราคาของสินทรัพย์ ณ จุดเวลาที่ทำการเปิดสัญญากับจุดเวลาที่ทำการปิดสัญญา

การเทรด CFD ก็ทำได้ด้วยหลักการเดียวกัน นั่นก็คือการเข้าไปเปิดออเดอร์เทรดสินทรัพย์ที่ราคาหนึ่ง ๆ จากนั้นก็รอให้ราคาปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง แต่ข้อแตกต่าง คือ การเทรด CFD นักลงทุนไม่ได้เป็นผู้ถือครองสินทรัพย์นั้นจริง ๆ แต่ CFD จะเป็นเพียงเครื่องมือ (ตราสารอนุพันธ์) สะท้อนราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ทำให้นักลงทุนสามารถ “เก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง” โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์นั้นจริง ๆ

จุดเด่นจุดด้อย
ในการซื้อขาย CFD ทองคำ นักลงทุนไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์ใช้เงินลงทุนน้อยในการเทรด CFD อาจมีค่าธรรมเนียม Swap ซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากสถานะที่ถือข้ามคืน

การเทรด CFD ทำกำไรอย่างไร

จากประสบการณ์ของผู้เขียนเองการเทรด CFD นี่แหละที่เป็นตัวสร้างโอกาสในการทำกำไรจากการขึ้นลงของราคาตลาดนั่นเอง

ซึ่งสามารถทำได้โดย

  1. เปิดบัญชีเทรด กับโบรกเกอร์ CFD
  2. ดาวน์โหลด Application หรือแพลตฟอร์มสำหรับเทรด CFD จากโบรกเกอร์ที่เปิดบัญชีด้วย
  3. เลือกประเภทของสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด
  4. เก็งกำไรโดยคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะปรับขึ้นหรือลง

ซึ่งการทำกำไรจากการเทรด CFD เราจะยกตัวอย่างโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ ไม่หลอกลวง อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพอีกด้วย ก็คือ แพลตฟอร์มเทรดของ Mitrade ให้บริการซื้อขาย CFD ด้วยสเปรดต่ำสมเหตุสมผล มีจำนวนล็อตขั้นต่ำในการซื้อขายต่ำถึง 0.01 ล็อต และให้เลเวอรเรจในการซื้อขายสูงสุด 200 เท่าตามตราสารที่ซื้อขาย Forex (1:200), ดัชนี (1:200), หุ้น (1:20), สินค้าโภคภัณฑ์ (1:200), สกุลเงินดิจิตอล (1:10)

ค่าธรรมเนียม 0 สเปรดต่ำ

❇ ฟรีเครื่องมือการจัดการความเสี่ยง และระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบ

❇ มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คนไทยให้บริการ 24 ชั่วโมง 7 วันทำการ

❇ สมัครบัญชีเทรดกับ Mitrade สำหรับการใช้งานภายในเวลาไม่เกิน 10 นาที เท่านั้น!!

ไม่มั่นใจที่จะเริ่มซื้อขายจริงในทันที? ไม่ต้องกังวล เราสามารถใช้ประสบการณ์ทดลองมูลค่า $50,000 ในบัญชี

ทดลองที่ลงทะเบียนฟรี เพื่อทำความคุ้นเคยกับกระบวนการซื้อขายและกลยุทธ์การซื้อขาย

*เปิดบัญชีทดลอง (ประสบการณ์การซื้อขายที่ปราศจากความเสี่ยง)

*เงินทุนแน่น? ไม่เป็นไร เราสามารถเปิดการซื้อขายด้วยเงินเพียง $100 ใน Mitrade

เปรียบเทียบ 5 วิธีในการลงทุนในทองคำ

การเปรียบเทียบวิธีการซื้อขายทองคำทองคำรูปพรรณหรือทองคำแท่งพสมุดออมทองคำโกลด์ฟิวเจอร์สETF ทองคำทองคำ CFD
เกณฑ์การลงทุนปานกลางปานกลางปานกลางสูงต่ำ
ชั่วโมงการทำธุรกรรมตามเวลาทำการตามเวลาทำการ4-6 ชมชั่วโมงการซื้อขายของโบรกเกอร์ในประเทศและต่างประเทศ24 ชั่วโมง
วิธีการทำธุรกรรมเงินสด/บัตรเครดิต/Mobile Bankingเงินสด/Mobile BankingMobile BankingMobile BankingMobile Banking
อัตราค่าธรรมเนียม1-5%ไม่รวม VAT 7%0-5%ไม่รวม VAT 7%0.10%ไม่รวม VAT 7%0.47%ไม่รวม VAT 7%0.04%ไม่รวม VAT 7%
ค่าใช้จ่ายในการถือครองไม่มีไม่มีค่าบริหารจัดการ/ปีค่าแลกเปลี่ยนดอกเบี้ย/วัน
ผลเลเวอรเรจ ไม่มี ไม่มี เลเวอรเรจต่ำ ไม่มี เลเวอรเรจสูง

จากข้อมูลในตารางเราจะเห็นว่าหากนักลงทุนซื้อทองคำจริง เช่น ทองคำแท่ง เหรียญทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เงินทุนเริ่มต้นจะค่อนข้างมาก และจะเห็นว่าการเทรดทองคำ CFD ความเสี่ยงต่ำมากที่สุด ใช้เงินลงทุนน้อยและ CFD นี่แหละเป็นตัวสร้างโอกาสในการทำกำไรที่ดีเลิศเลย นอกจากการเทรด CFD แล้วในตารางก็มีอีกหลายวิธีให้เลือกลงทุน เช่น gold passbook, gold ETF, gold futures ต่อไป เรามาดูความเสี่ยง ต้นทุน และประโยชน์ของวิธีการลงทุนทองคำแบบต่าง ๆ กัน

ข้อดีข้อเสียที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนทองคำ

ข้อดี

✅ ซื้อง่ายขายคล่อง

✅ ลงทุนได้ทั้งแบบซื้อก่อนแล้วค่อยขาย หรือขายก่อนแล้วค่อยซื้อ (เฉพาะร้านค้าที่ให้บริการ)

✅ สามารถแปลงเป็นเงินสดหรือเงินตราสกุลของประเทศที่เราอยู่ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่กระทบมูลค่าทองคำมากนัก

✅ เป็นหลักประกันและเพิ่มสภาพคล่องในยามฉุกเฉิน

✅ ไม่จำเป็นต้องลงทุนเต็มจำนวน เนื่องจากมีร้านทองหลายแห่งเปิดให้นักลงทุนหรือบุคคลทั่วไปเลือกออมทอง โดยการทยอยซื้อได้ในจำนวนเงินที่ต้องการ เช่น ออมทองเดือนละ 1,000 บาท เมื่อครบบาทสามารถถอนทองที่ออมไว้ออกมาในรูปแบบทองคำแท่ง หรือขายคืนเป็นเงินสดก็ได้

✅ การสะสมทองนั้นเป็นการกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง

✅ ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้ เนื่องจากในยามที่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น ราคาทองคำก็มักจะขยับขึ้นด้วย

✅ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่เสื่อมสภาพตามกาลเวลา

ข้อเสีย

❎ เลือกราคาซื้อไม่ได้

❎ การออมทองไม่มีปันผล

❎ รับความเสี่ยงหากบริษัทปิดตัวลง

❎ ถ้าเลือกลงทุนทองคำแท่ง ไม่สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องประดับได้ทันที ต้องนำไปขึ้นรูปเป็นเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยข้อมือ หรือสร้อยคอ

❎ ถึงซื้อง่ายขายคล่อง แต่ถ้าขายทองคำแท่งต่างร้านอาจถูกหักค่าตรายี่ห้อ 10-20 บาท/บาททองคำ (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง แนะนำให้สอบถามที่ร้านทองอีกครั้ง)

❎ ไม่สามารถระบุผลตอบแทนได้ชัดเจน เหมือนการออมเงิน สลากออมสิน หรือหุ้นกู้ที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้

ปี 2566 ควรลงทุนทองคำดีมั้ย?

ถ้าจะถามว่า “ควรลงทุนทองคำดีมั้ย?” ผู้เขียนก็จะตอบว่า “เป็นสิ่งที่ดีเลยทีเดียว” เพราะทองคำราคาจะสูงขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว แค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้ว่าควรค่าแก่การลงทุน สามารถเปรียบเทียบดูได้จากรูปภาพที่เราอ้างอิงไว้ด้านล่าง

และก็คงขึ้นอยู่ว่าเรานั้นต้องการประโยชน์อะไรจากการลงทุนในทองคำ โดยทองคำนั้นเป็นเครื่องมือในการลงทุนเพื่อการกระจายความเสี่ยงมากกว่าการทุ่มเงินลงทุนในทองคำทั้งหมด สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนของเรา ควรจัดให้มีสินทรัพย์อย่างทองคำในพอร์ตการลงทุนไม่เกิน 10% ของมูลค่าสินทรัพย์เพื่อการลงทุนของเราทั้งหมด และที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดก็ตาม อย่าลืมศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนต้องศึกษารายละเอียดด้วยตัวเอง ก่อนตัดสินใจลงทุน

  • 2566 ควรลงทุนทองคำช่วงไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด

หากนักลงทุนสังเกตดี ๆ ทองคำมักจะมีราคาขึ้นตอนช่วงต้นเดือนมกราคมและต้นเดือนกรกฏาคม และราคาจะเริ่มลงมาช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงมีนาคม ดังนั้นหากนักลงทุนมือใหม่ท่านใดต้องการเกร็งกำไรกับราคาทองคำ ช่วงที่ดีที่สุดในการซื้อขายทองคำนั่นก็คือช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม นั่นเองค่ะ

สรุป

จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายวิธีในการลงทุนทองคำ และทั้งหมดนี้ก็คือ 5 วิธีการออมทองในปี 2566 ที่เรานำมาเสนอสำหรับเป็นไอเดียในการออมทอง ซึ่งใครที่เคยลังเลอยู่ว่าจะออมทองดีไหม จะออมทองอย่างไรให้กำไรแบบยั่งยืน ก็น่าจะพอได้แนวทางในการออมกันไปบ้างแล้ว เราจึงควรเลือกรูปแบบการลงทุนให้ดี รวมถึงจัดสัดส่วนของพอร์ตให้เหมาะสมกับเป้าหมายและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ที่สำคัญ ต้องคำนึงถึงระดับความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ที่เหลือก็เพียงแค่ลงมือและมีวินัยในการออม ความสำเร็จของการลงทุนครั้งนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

ซื้อ ทอง ที่ไหน ดี 10 อันดับห้างทองในไทย

วิเคราะห์ราคาทองคําวันนี้ 2022 ผลจากสงครามยูเครนต่อ XAUUSD

**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

รับฟรีทันที! เงินเสมือนจริง $50,000 เพื่อฝึกฝนการเทรดกับ Mitrade!