ควรซื้อหุ้น Tesla หรือไม่? ซื้อหุ้น Tesla โดยค่าคอมมิชชั่น 0%

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในสมัยนี้ใคร ๆ ก็ต่างเคยได้ยินรถยนต์ยี่ห้อ Tesla กันทั้งนั้น เพราะเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ผลิตรถยนต์ EV บวกกับชื่อเสียงของ Elon Musk ที่เป็นเจ้าของ และกำลังมีประเด็นกับสื่อโซเชียลเจ้านกฟ้าหรือ Twitter นั่นเอง นอกจากผลิตรถยนต์ EV ที่ดัง ๆ แล้ว เจ้า Tesla เองก็มีหุ้นเหมือนกันนะ แล้วหุ้น Tesla มันดีหรือไม่ดี บทความนี้น่าจะตกตระกอนความคิดของคนอ่านได้แน่นอน

Tesla คืออะไร?

Tesla คือ บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า EV (Electric Vehicle) และยังทำธุรกิจพลังงานสะอาดที่เรียกว่า “โซล่าเซลล์” โดย Elon Musk ผู้เป็นเป็นประธานใหญ่มาตั้งแต่ปี 2004 ได้นำพาธุรกิจเข้าสู่ตลาดหุ้น NASDAQ ในปี 2010

นอกจากธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าที่ถือว่าเป็น Disruptive innovation ของโลก บริษัท Tesla ยังเคยให้ความสนใจศาสตร์แห่งอนาคตอย่าง “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI (Artificial Intelligence) และอุโมงค์การจราจรใต้ดินภายใต้ชื่อ “Hyperloop” ที่เชื่อว่าจะเปลี่ยนวิธีการสัญจรของสหรัฐฯ ไปตลอดกาล ในปัจจุบันมีขนาดของกิจการ หรือ Market Cap สูงกว่าธุรกิจผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิม อย่าง GM และ FORD และประกาศยอดขายที่เติบโตขึ้นทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2012 ที่มียอดขายทั้งปีแค่หลักร้อยล้านเหรียญ จนในปัจจุบันยอดขายเติบโตหลักพันล้านเหรียญต่อปีแล้ว

  • วิเคราะห์งบการเงินบริษัท Tesla

มีประเด็นที่น่าสนใจสำหรับหุ้น Tesla คือ “อัตรากำไรขั้นต้น” (Gross Profit Margin) ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่เอา “กำไรขั้นต้น” หารออกด้วย “ขาย” (Sales) ซึ่งอัตราส่วน “อัตรากำไรขั้นต้น” ที่สูงขึ้น จะหมายถึง บริษัทเหลือกำไรมากขึ้น หรือไม่ก็ ต้นทุนการขายนั้นลดลง จึงทำให้กำไรเพิ่มขึ้นนั่นเอง

ปี 2020 ที่ผ่านมา ‘อัตรากำไรขั้นต้น’ ของบริษัท Tesla โตขึ้นใน Q3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ๆ ที่สำคัญคือ Margin ตัวนี้เติบโตแซงหน้าคู่แข่งในอุตสาหกรรมไปเรียบร้อยแล้วด้วย นั่นหมายความว่า Tesla แกร่งกว่า อีกทั้งยอดขายและรายได้สิทธิก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สังเกตว่าบริษัท Tesla มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างสูงก่อนปี 2018 และก็เริ่มมีมรสุม แต่หลังจากจุดต่ำสุดในปี 2019 อัตราส่วน Gross Profit Margin เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นครั้งแรกที่โตอย่างยั่งยืนนั่นเอง

ITEM20152016201720182019
Sales/Revenue4.05B7B11.76B21.46B24.58B
Sales Growth73.01%67.98%82.51%14.52%

อัตรากำไรขั้นต้นจะบ่งบอกศักยภาพที่ซ่อนเร้นของบริษัท ซึ่งหลายครั้งนักลงทุนก็ไม่ได้สังเกต อาจจะเป็นเพราะไม่ใช่ปัจจัยที่ผลักดันราคาหุ้น ในปี 2020 สิ่งที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้น Tesla จริง ๆ ก็คือ “ยอดขาย” แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้ Tesla เป็นที่พูดถึงและราคาหุ้นพุ่งเกิน 1,000% คือ สัญญาที่ Elon Musk ให้ไว้ว่า จะมีการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้จริง ตารางนี้มาจาก Market Watch จะเห็นว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • สถิติราคาหุ้น Tesla

เมื่อต้นปี 2013 ราคาหุ้น Tesla ยังถูกมาก ๆ และวิ่งอยู่ในช่วงราคา 30 – 40 ดอลลาร์ เมื่อผ่านไปได้เพียงปีเดียว ราคาทะลุ 40 ดอลลลาร์ ขึ้นไปวิ่งเป็นกรอบ 40 – 60 ดอลลาร์ จนถึงปี 2017 ความผันผวนของกรอบพักตัวตลอดทั้งปีประมาณ 20 ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็วิ่งอยู่ในกรอบราว ๆ 60 – 80 ดอลลาร์

จะเห็นว่า หุ้น Tesla เป็น 1 ในหุ้นที่ดีมาก ๆ เพราะเมื่อวิ่งเป็นกรอบ จะมีกรอบการแกว่งเท่าเดิมจนกว่า Demand & Supply ของตลาดจะเปลี่ยนไป

แต่หลังจากความสำเร็จของ Elon Musk ช่วงเดือนมิถุนายน 2020 ราคาหุ้น Tesla จะวิ่งราว ๆ 60 ดอลลาร์เข้าไปแล้ว สิ่งสำคัญที่นักลงทุนหรือผู้ที่ต้องการซื้อหุ้น Tesla ทำนั่นก็คือ หมั่นสังเกตกรอบความผันผวนของราคาอยู่ประมาณที่เท่าไหร่นั่นเอง

invest-in-tesla-stock
source: https://admiralmarkets.sc/th/education/articles/shares/invest-tesla-stock

  • หุ้น Tesla ปันผลเท่าไหร่

บริษัท Tesla ยังไม่มีการจ่ายปันผลใด ๆ และเชื่อว่าจะยังไม่มีการจ่ายปันผลไปอีกนานเช่นกัน แถมดูเหมือนจะเป็นข้อเสียของตัว Tesla เองด้วยซ้ำ เพราะแม้จะเป็นบริษัทยอดเยี่ยม แต่ก็ยังมีภาระหนี้ที่สูง ทำให้มีต้นทุนการจ่ายดอกเบี้ยที่สูง จึงยังไม่เหมาะสมที่จะจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ได้ แต่ถ้าเริ่มจ่ายปันผลเมื่อใด นั่นแปลว่า ราคาหุ้นจะไปไกลกว่านี้ และคงเป็นราคาที่ซื้อไม่ไหวแล้ว

วิเคราะห์หุ้น Tesla และปัจจัยที่ผลักดันรายได้/ผลกำไร

สำหรับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมีมุมมองบวกกับหุ้นดังกล่าวอยู่ โดยนักวิเคราะห์ 45% ยังคงให้คำแนะนำเป็น “ซื้อ” แม้ตลาดการเงินยังคงเผชิญความผันผวนของนโยบายการเงินที่ตึงตัวของ FED และราคาหุ้น Tesla ปัจจุบันที่แกว่งตัวลงต่ำกว่า $1,000 แล้ว และยังมีหลายเจ้าที่ออกมาปรับเป้าหมายราคาของปี 2022 ขึ้นด้วย

Mark Delaney จาก Goldman Sachs แนะนำเป็น “ซื้อ” หุ้น Tesla โดยมองช่วงราคาเป้าหมาย 12 เดือนที่ $1,125 – $1,200 และยกให้หุ้นตัวนี้เป็น Top Pick ของปี 2022 นี้ โดยกล่าวว่า

“มองว่า Tesla ยังเป็นเจ้าตลาดรถ EV อยู่ (ที่รวมถึงธุรกิจ Ecosystem ตั้งแต่การผลิตชิป แบตเตอรี่ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงสถานีชาร์จไฟ) ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นจุดยืนที่ดีในระยะยาว เพื่อเปลี่ยนมาลงทุนใน EV”

Delaney ยังกล่าวต่อด้วยว่า “เราคาดหวังว่า Tesla จะเพิ่มกำไรจากการขาย Model Y และเพิ่มกำลังการผลิตจากโรงงานขนาดใหญ่ที่เพิ่งเปิดในเบอร์ลินและออสติน และกระตุ้นกำไรจากด้านซอฟต์แวร์ได้ในระยะยาวต่อไป”

เมื่อวันที่ 10 มิถุนาที่ผ่านมา ทางฝั่ง UBS ก็อัปเกรดหุ้น Tesla จาก ถือ เป็น “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย $1,100 หรือมีอัปไซด์ 47% จากปัจจุบัน โดย Patrick Hummel นักวิเคราะห์ของ UBS มองว่าแม้ราคาหุ้นจะปรับลงมาแล้วกว่า 35% นับจากต้นปี แต่ก็ยังมองว่าแข็งแกร่งอยู่ดี เนื่องจาก

1. Tesla มีจำนวนออเดอร์คงค้างปีนี้สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่โรงงานขนาดใหญ่สองแห่งกำลังเริ่มเปิดเดินเครื่อง

2. บริษัททำส่วนต่างกำไรได้ดี อันเนื่องมาจากการตั้งราคาและนวัตกรรมต่าง ๆ

3. บริษัทมีโครงสร้างการแข่งขันในห่วงโซ่อุปทานที่แข่งขันได้ ส่งผลให้มีการเติบโตและสร้างกำไรได้มากกว่าปกติ

สำหรับกองทุนเทคยักษ์ใหญ่อย่าง ARK Investment เองก็คาดการณ์โดยใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์ จากตัวแปร 38 ตัวที่เป็นอิสระต่อกัน แล้วนำมาสร้างเป็นฉากทัศน์ 3 แบบเพื่อพยากรณ์ราคาหุ้นเทสล่า ในปี 2026 โดยมองว่ากรณีฐานสามารถคาดหวังราคาที่ $4,600 แต่หากตลาดอยู่ในขาขึ้น (Bull) ราคาคาดหมายมีโอกาสที่ 75% จะปรับขึ้นไปเป็น $5,800 ในทางกลับกันหากตลาดซบเซา (Bear) ก็มีโอกาส 25% ที่ราคาคาดหมายจะอยู่ที่ $2,900

วันที่ราคาเป้าหมาย 2022
ราคาปัจจุบัน10 มิ.ย.$696.69
Cowenมิ.ย.$700
Morgan Stanleyมิ.ย.$1300
UBSมิ.ย.$1100
Sanford Bernsteinมิ.ย.$450
Goldman Sachsมิ.ย.$1000
Mizuhoพ.ค.$1300

มีหลายปัจจัยที่โบรกเกอร์มองว่าเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันราคาหุ้น Tesla ในอนาคตได้แก่

1. มีข้อได้เปรียบเชิงโครงสร้างในธุรกิจที่ทำอยู่ นั่นคือบริษัททำทั้ง ชิป ซอฟต์แวร์ แบตเตอร์รี่ อุปกรณ์เก็บกระแสไฟฟ้า สถานีชาร์จไฟ รวมถึงการผลิตแบตเตอรี่เอง ถือเป็นท่อส่งทางนวัตกรรมที่รวมมาอยู่ในรถ EV สักคันหนึ่ง ซึ่งบริษัทที่ผลิต EV เจ้าอื่นไม่มี

2.การผลิตที่กลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดหลังโควิด หลังการผลิตชะงักไปในช่วงต้นปี 2020 ปัจจุบันบริษัทเริ่มเดินเครื่องโรงงานและผลิตรถ EV ได้สูงเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้จะมีการเดินเครื่องการผลิตในโรงงานเบอร์ลินและออสติน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตรถ EV ได้เป็น 2 ล้านคัน จากเดิมที่ผลิตได้เพียง 1 ล้านคันต่อปี

3.การขยายตลาดในจีน จีนขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อ ซึ่งในปีนี้คาดการณ์ว่าการส่งมอบรถในจีนจะเพิ่มขึ้นได้ 40% เทียบกับปีที่แล้ว และหากการผลิตและส่งมอบเป็นไปได้ด้วยดี จะช่วยเพิ่มขนาดของตลาดรถ EV ให้ Tesla ได้ดีทีเดียว

  • กองทุนที่ลงทุนในหุ้น Tesla

สิ่งที่ยืนยันศักยภาพของหุ้น Tesla ได้เป็นอย่างดี คือ “กองทุนรวม” ที่มีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ซึ่งในแง่นักลงทุนอย่างเรา จะทำให้มั่นใจได้ว่าหุ้น Tesla เป็นหุ้นแห่งอนาคต หรือไม่เราก็สามารถเลือกที่จะลงหุ้นกับกองทุนต่าง ๆ ที่ลงทุนในหุ้น Tesla ก็ได้ เพราะเหมือนกระจายความเสี่ยงไปด้วย และนี่คือกองทุนที่ลงทุนในหุ้น Tesla เช่น

  • ARKW หรือ ARK Next Generation Internet: เป็นกองทุน ETF ตัวนี้เน้นลงทุนหุ้นแห่งอนาคต ซึ่งเคลมว่า ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในการลงทุนหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Internet ซึ่งในพอร์ตมีหุ้นเทคโนโลยีการสื่อสารเด่น ๆ เช่น Slack, Pinterest และ Spotify เป็นต้น แต่ในปี 2021 (มกราคม 2021) นี้ ARKW ถือหุ้น Tesla มากเป็นประวัติการณ์สูงถึง 10.18% ของพอร์ตเลยทีเดียว
  • QQQ หรือ Invesco PowerShares QQQ Trust: มีชื่อเสียงโด่งดังมาก และเป็นหนึ่งในกองทุน ETF ที่มีปริมาณยอดการเทรด (Active Volume) สูงอันดับต้น ๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ โดย QQQ จะเน้นลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีเฉพาะใน NASDAQ-100 หรือในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี 100 ตัวที่ใหญ่ที่สุดเท่านั้น นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่า จะได้ลงทุนในหุ้นที่แข็งแกร่งมาก ๆ ซึ่งข้อมูล ณ มกราคม 2021 กองทุน QQQ ถือหุ้น Apple + Microsoft + Amazon รวมถึงเกือบ ๆ 30% และถือหุ้น Tesla มากพอสมควรที่สัดส่วน 5.22% ของพอร์ต
  • XLY หรือ Consumer Discretionary Select Sector SPDR Fund: เป็นกองทุน ETF ที่เน้นถือหุ้น High-Growth ในกลุ่มที่เป็นปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตสมัยใหม่ ข้อมูลจาก Bloomberg เมื่อมกราคม 2021 ระบุว่า XLY ถือหุ้น Amazon มากถึง 21.52% ตามมาด้วย Tesla ที่ 18.73%
  • LIT หรือ Global X Lithium & Battery Tech: กองทุน ETF ที่เน้นลงทุนในอุตสาหกรรม “แบตเตอรี่ลิเธียม” ซึ่งตัวนี้จะลงทุนบริษัทแบตเตอรี่โดยตรง โดยข้อมูลเมื่อมกราคม 2021 กองทุน LIT ถือหุ้น Tesla อยู่ราว ๆ 1.60% เท่านั้น จึงเหมาะสำหรับการกระจายความเสี่ยงอย่างมาก เพราะพอร์ตไม่ได้ไปกระจุกที่หุ้นเทคโนโลยีอย่างเดียว

ปัจจัยที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้น Tesla

ปัจจัยที่ส่งผลต่อหุ้น Tesla หลัก ๆ เลยคือตัว Elon Musk เอง และอีกปัจจัยคือความสามารถในการเติบโตของรถ EV เพราะสองสิ่งนี้ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า Tesla คือหุ้นในอนาคตแน่ ๆ และนี่คือปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อราคาหุ้น Tesla เช่น

  • เติบโตได้ท่ามกลางวิกฤติทางเศรษฐกิจ
  • การพัฒนาระบบ Self-driving
  • มีโมเดลลดต้นทุนที่ยั่งยืน

การคาดการณ์ราคาโดยผู้เชี่ยวชาญ

  • Ryan Brinkman จาก JP Morgan ได้คาดการณ์ราคาอีก12 เดือน ตามความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ 20 คน ประมาณการเฉลี่ยอยู่ที่ $970.55 การคาดการณ์เชิงบวกมากขึ้นอยู่ที่ $1,580.00 และการคาดการณ์ในแง่ร้ายคือ $250.00
  • Patrick Hummel จาก UBS ตั้งเป้าหมายราคาไว้ที่ $1,000 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก $725 ในเดือนธันวาคม 2564 ซึ่งนักวิเคราะห์คงอันดับเครดิตเป็นกลางสำหรับหุ้นเทสลา
  • Jed Dorsheimer จาก Canaccord Genuity กลับมองการเติบโตของหุ้นไว้ในแง่ดีเอามาก ๆ โดยประมาณเป้าหมายราคาเฉลี่ยตั้งไว้เหนือการคาดการณ์ก่อนหน้า ($1,040 เทียบกับ $940) นักวิเคราะห์ยังคงอันดับซื้อที่แข็งแกร่ง

ราคาอนาคตของหุ้น Tesla จะเป็นอย่างไร?

invest-in-tesla-stock
ราคาหุ้น TSLA ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2022

แม้รายได้หรือกำไรต่อหุ้น (EPS) และรถยนต์ EV จะยังเติบโตได้ดีอยู่ มีการเติบโตที่สูงไว้เกินคาด แต่ก็ส่อแววชะลอตัวแล้วเช่นกัน เพราะแบรนด์รถยนต์ต่างเริ่มพัฒนารถ EV และก้าวมาเป็นคู่แข่ง และพร้อมที่จะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด ภาพรวมของ Tesla บอกเลยว่ายังมีการเติบโตที่น่าสนใจ แถมยังโดดเด่นมากทั้งในกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี และผู้ผลิตรถยนต์ แต่อนาคตเป็นเช่นไรไม่มีใครทราบได้ เพราะคู่แข่งรถยนต์ EV หลาย ๆ เจ้าเริ่มรุกเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากัน

ควรซื้อหุ้น Tesla หรือไม่?

โดยส่วนตัวแล้วมองว่าควรซื้อเก็บไว้ก่อนก็ดี เพราะเหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้นว่ามันคือ “ซื้ออนาคต” เพราะบริษัทมียอดขายที่ประกาศในงบการเงินเติบโตขึ้นทุกปี แต่ข้อเสียมันก็มีเช่นกันนั่นคือยังไม่มีการจ่ายปันผลใด ๆ เพราะตัวบริษัทเองยังไม่ได้กำไร มีภาระหนี้ที่สูง ทำให้มีต้นทุนการจ่ายดอกเบี้ยที่สูง แต่ถ้าเริ่มจ่ายปันผลเมื่อใด ราคาหุ้นจะไปไกลกว่านี้แน่นอน และคงเป็นราคาที่ซื้อไม่ไหวแล้ว จึงแนะนำว่าควรซื้อไว้ก่อนดีกว่า

จะซื้อขายหุ้น Tesla แบบง่าย ๆ ได้อย่างไร?

MiTrade ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน แล้ว Mitrade คืออะไร? 

  • เปิดบัญชีง่ายและรวดเร็วภายใน 5 นาที
  • อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงาน ASIC, CIMA และ FSC
  • ค่าคอมมิชชั่น 0 %  สเปรดต่ำ
  • เลเวอเรจ 1:200
  • ฟรีเงินเสมือนจริง 50, 000 USD
  • มีฟังก์ชั่นบัญชีทดลอง (Demo account) เพื่อให้ชาวเทรดเดอร์หน้าใหม่สร้างความคุ้นชินกับตัวระบบเสียก่อน แถมยังทดลองใช้ได้ตั้ง 90 วัน

วิธีการซื้อขายหุ้น Tesla บน MiTrade ทำได้ สองวิธี ดังนี้

1.การซื้อหุ้นกับ Tesla โดยตรง

ปัจจุบันได้เข้าซื้อขายอยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq และ S&P ของสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในแพลตฟอร์ม MiTrade สามารถซื้อหุ้น Tesla ได้ด้วยสัญญาซื้อขายส่วนต่าง(Contract for Differences) หรือ CFD โดยทำการเปิดบัญชีและซื้อขายได้ง่าย ๆ เพียงไม่กี่นาทีอีกด้วย นักลงทุนสามารถอาศัยเลเวอเรจ เพื่อขยายความสามารถในการทำกำไรได้ (ขยายผลขาดทุนก็ได้เช่นกัน)  ซึ่ง Mitrade จะเสนอค่าเลเวอเรจที่ 1/2/5/10 เท่า   

invest-in-tesla-stock

2.ลงทุนในดัชนี S&P 500 และ NAS 100

นอกจากวิธีการซื้อขายหุ้นโดยตรงแล้ว อีกวิธีหนึ่งก็คือซื้อขายผ่านดัชนี S&P 500 (SPX500) และ NASDAQ 100 โดยหุ้น Tesla ถูกนำมาคำนวณรวมอยู่ในดัชนี S&P 500 ด้วยน้ำหนัก 1.763858% และดัชนี NASDAQ 100 ด้วยน้ำหนัก 3.964% เมื่อนักลงทุนต้องการลงทุนในหุ้น Tesla ก็สามารถลงทุนในดัชนีทั้งสองตัวนี้ได้เช่นกัน แพลตฟอร์ม Mitrade สามารถลงทุนในดัชนีดังกล่าวด้วย CFD  โดยจะเสนอค่าเลเวอเรจที่ 1/20/50/100/200 เท่า เช่น การใช้เลเวอเรจ 200 เท่า นักลงทุนสามารถซื้อขายดัชนีเริ่มต้นต้นเพียงประมาณ 19 ดอลลาร์ (ประมาณ 698 บาทไทยต่อ 1 ล็อต ) (ราคา ณ วันที่ 5 ก.ย. 2565)

invest-in-tesla-stock

เนื่องจากการลงทุนในดัชนีแบบนี้จะมีการกระจายพอร์ตการลงทุน ความผันผวนในการลงทุนจึงจะต่ำลง ดังนั้น ความเสี่ยงในการลงทุนในดัชนีจะต่ำกว่าการลงทุนหุ้นโดยตรง และศักยภาพในการทำกำไรก็จะต่ำลงไปด้วย สำหรับนักลงทุนมือใหม่ เราเสนอให้เริ่มลงทุนด้วยดัชนีมากกว่าการลงทุนแบบโดยตรงดีกว่า

ซื้อขายหุ้น Tesla (เทสลา) เดี๋ยวนี้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับซื้อหุ้น tesla

  • Tesla จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใด

หุ้นของ Tesla ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ภายใต้สัญลักษณ์ TSLA

  • Tesla จ่ายเงินปันผลหรือไม่

หุ้น Tesla ไม่มีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เนื่องจากบริษัทต้องการรักษารายได้เพื่อการเติบโตในอนาคต

  • หุ้น Tesla อยู่ในดัชนีหุ้นหรือไม่

ใช่แล้ว Tesla อยู่ในดัชนี NASDAQ100

**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

รับฟรีทันที! เงินเสมือนจริง $50,000 เพื่อฝึกฝนการเทรดกับ Mitrade!