การเล่นหุ้นระยะสั้นเหมาะกับมือใหม่ไหม?

การเล่นหุ้นระยะสั้น เหมาะกับมือใหม่ที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เพียงพอแล้ว สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่สามารถวางแผนการเทรดได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ขึ้นอยู่กับเวลาที่มีในการเฝ้าหน้าจอเทรด จำนวนกำไรที่คาดหวังตามระยะเวลาและความชอบส่วนบุคคล เราตามมาดูรายละเอียดแบบเจาะลึกกันเลย

การเล่นหุ้นระยะสั้น คืออะไร

การเล่นหุ้นระยะสั้นเปรียบเสมือนการเล่นไวกิ้งในสวนสนุก 1 รอบ ในทุก ๆ วินาทีขณะที่เรากำลังนั่งไวกิ้งอยู่นั้น หากเราเปรียบเทียบความสูงของเราเทียบกับพื้นดินที่มีระยะที่ต่างกัน วินาทีไหนอยู่ในจุดที่สูง วินาทีไหนอยู่ในจุดที่ต่ำของการแกว่ง และหากเราคาดหวังจะได้ส่วนต่างของราคา (Capital gain) จากการเล่นหุ้นในแต่ละช่วงภายใน 1 รอบ นั่นเปรียบเสมือนการเล่นหุ้นระยะสั้น

แต่หากเราเปรียบเทียบการเล่นไวกิ้งที่จบลง 1 รอบกับรอบที่แล้วว่าเล่นรอบใดสนุกมากน้อยกว่ากัน รอบที่ 1 2 3 4 และหากเราคาดหวังจะได้ส่วนต่างของราคา (Capital gain) จากการเล่นหุ้นในแต่ละช่วง แต่ละรอบเปรียบเทียบกัน นั่นเปรียบเสมือนการเล่นหุ้นระยะยาว

การเก็งกำไรภายในระยะเวลาสั้น ๆ นี้เรามักนิยมเรียกกันว่าเป็นการเทรดหุ้นรายวัน หรือ Day Trade เป็นวิธีการลงทุนโดยอาศัยความผันผวนของราคาหุ้นระยะสั้นที่มีความผันผวนทางด้านราคาสูงเพื่อใช้เป็นโอกาสมาสร้างเป็นกำไรผลตอบแทน เทรดเดอร์มักซื้อหุ้นในตอนเช้า แล้วขายทิ้งในตอนเย็น โดยไม่ถือข้ามไปอีกวัน ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมข้ามคืนให้แก่โบรกเกอร์

การเล่นหุ้นระยะสั้นทำงานอย่างไรใช้กลยุทธ์ในการเทรดอย่างไรบ้าง

การเล่นหุ้นระยะสั้น หมายถึง กลยุทธ์การซื้อขายแบบซื้อสินทรัพย์เข้ามาแล้วขายออกภายในวันเดียวกัน หรืออาจจะซื้อสินทรัพย์เข้ามาแล้วขายออกภายในช่วงสองสามวันถึงสองสามสัปดาห์ 

นักลงทุนระยะสั้นมักจะใช้ Technical Analysis ในการกำหนดจุดซื้อ จุดขาย จุด Stop loss ซึ่งจะมีกรอบการลงทุนที่ชัดเจนว่ากำไรจะได้เท่าไหร่ ถ้าขาดทุนจะเสียเท่าไหร่ กราฟจะใช้งานได้ดีก็ต่อเมื่อมีความต้องการมาจากอุปสงค์ อุปทานที่เกิดขึ้นมาโดยธรรมชาติ มีสภาพคล่องสูง ราคาที่ปรากฏต้องไม่โดนแทรกแซง ไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง และถือเป็นการศึกษาพฤติกรรมราคาหุ้นของตลาดในอดีต โดยใช้หลักสถิติมาใช้คาดการณ์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในปัจจุบัน เพื่อเป็นการช่วยหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยเรามีกลยุทธ์ในการเทรดโดยหลัก 3 ขั้นตอนในการประกอบการพิจารณา คือ

1. ดูเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่(Moving Averages)

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คือราคาเฉลี่ยของหุ้นในช่วงเวลาหนึ่ง กรอบเวลาที่พบบ่อยที่สุดคือ 15, 20, 30, 50, 100 และ 200 วัน แนวคิดโดยรวมคือการแสดงว่าหุ้นมีแนวโน้มขึ้นหรือลง โดยทั่วไปแล้ว ผู้สมัครที่ดีจะมีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ลาดขึ้น หากเรากำลังมองหาหุ้นที่ดีในการ Short เรามักต้องการหาหุ้นที่มีเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ราบเรียบหรือลดลง

2. ทำความเข้าใจวัฏจักรของการซื้อขายหุ้น(Cycles) หรือรูปแบบโดยรวม(Patterns)

โดยทั่วไปแล้ว วัฏจักรของตลาด ช่วงขาขึ้นของตลาดหุ้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกรอบเวลาเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ในขณะที่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ค่าเฉลี่ยค่อนข้างคงที่ ในฐานะเทรดเดอร์ เราสามารถใช้วัฏจักรของตลาด (Cycles) หรือรูปแบบโดยรวม (Patterns) เพื่อประโยชน์ในการกำหนดเวลาที่ดีในการเข้าซื้อสินทรัพย์ ไม่ว่าจะในระยะยาวหรือระยะสั้น

3. ทำความเข้าใจแนวโน้มหรือเทรนด์ของตลาด

หากเทรนด์ของตลาดเป็นลบ เราอาจพิจารณาซื้อสินทรัพย์เข้ามาในพอร์ต และลดการขายสินทรัพย์ออก  จากนั้นหากเทรนด์ของตลาดกำลังเปลี่ยนไปเป็นไปในเชิงบวก เราอาจต้องพิจารณาการขายสินทรัพย์ออกเพื่อทำกำไร ในเมื่อช้อนซื้อไว้ตอนที่มีราคาถูกและราคาพุ่งสูงขึ้นมาแล้ว เมื่อเรารู้จักการดูเทรนด์ของตลาด เราก็จะรู้ว่าจุดไหนควรที่จะซื้อหรือขายสินทรัพย์เพื่อทำกำไรจากคอนเซ็ปต์ง่าย ๆ “ซื้อเข้าเมื่อราคาถูก และขายออกเมื่อราคาแพง”

การทำตามขั้นตอนพื้นฐานเหล่านี้จะทำให้เราเข้าใจว่าจะมองเห็นการเล่นหุ้นระยะสั้นที่ผู้ลงทุนมีความรู้ความเข้าใจมากเพียงพอ และการเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม จะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้นระยะสั้นได้มากยิ่งขึ้น

ข้อดีของการเล่นหุ้นระยะสั้น

1. ผลตอบแทนสูง ให้ผลตอบแทนอย่างรวดเร็ว สามารถถอนเงินออกมาใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็ว โดยการลงทุนหุ้นระยะสั้นผู้ลงทุนจะใช้ความเสี่ยงด้านราคามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยวิธีการซื้อถูกขายแพง จำเป็นต้องรู้จังหวะในการซื้อขายจะมีโอกาสทำกำไรได้เร็วกว่า

2. สร้างกำไรจากการลงทุนภายในวันเดียวกัน

3. ใช้วิธีการวิเคราห์กราฟเป็นหลัก สามารถวิเคราะห์และเลือกลงทุนได้เร็ว และใช้เวลาน้อยกว่า

4. ในกรณีเลือกลงทุนหุ้นผิดตัว มีโอกาสกลับตัวทัน Cut Loss ได้เร็ว

5. ไม่ต้องนั่งเฝ้าพอร์ตหุ้นทั้งวัน

6. เป็นการลงทุนที่แม้มีเงินทุนเริ่มต้นน้อยก็สามารถลงทุนได้

ข้อเสียของการเล่นหุ้นระยะสั้น

1. จะมีความผันผวนทางด้านราคาสูงที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หากมีประสบการณ์ความรู้ไม่มากพอาจทำให้เกิดการยอดเงินติดลบได้

2. การสมัครการลงทุนหุ้นสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว อาจทำให้ไม่ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นได้อย่างเพียงพอ ทำให้มีโอกาสขาดทุนได้ง่าย

3. มีต้นทุนสูง เสียค่าธรรมเนียมมากกว่า เพราะนักลงทุนต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมถ้าเทรดหุ้นระยะสั้นวันละ 2-3 ครั้ง อย่างค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ หรืออัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น

ทำไมการเล่นหุ้นระยะสั้นเหมาะกับมือใหม่?

นักลงทุนมือใหม่สามารถสร้างกำไรได้มากในระยะเวลาอันสั้น ใช้เวลาภายในไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น และเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย เนื่องจากจำนวนเงินลงทุนสุทธิที่ต้องใช้น้อยมาก การเล่นหุ้นระยะสั้นของมือใหม่ นักลงทุนจะทำการซื้อขายเก็งกำไรเพียงวันละหนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้น มือใหม่เล่นหุ้นจึงเหมาะกับการเล่นหุ้นระยะสั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ต่อไปในอนาคตหากผู้ลงทุนสมือใหม่ มีประสบการณ์เชี่ยวชาญมากขึ้น จนเปลี่ยนไปเป็นมืออาชีพแล้ว อาจจะซื้อขายหุ้นได้มากกว่า 50 ครั้งต่อวันเลยทีเดียว

เทคนิคการเล่นหุ้นระยะสั้น

เราเลือก 7 เทคนิคที่สามารถใช้ในการเล่นหุ้นระยะสั้นมาฝาก ดังนี้

1. เทคนิค Scalping เป็นระบบเทรดเทคนิคการเล่นหุ้นระยะสั้นและรวดเร็ว เป็นกลยุทธ์การทำกำไรโดยการเปิดปิดการซื้อขายในระยะสั้น ๆ เหมาะสำหรับการเทรดรายวันอย่างรวดเร็ว เทรดไวประหยัดเวลา โดยทำกำไรทันทีเมื่อหุ้นขยับขึ้น

2. เทคนิค Fading เป็นเทคนิคซื้อขายตรงข้ามกับแนวโน้ม เหมาะกับนักลงทุนที่มีต้นทุนไม่มาก พร้อมที่จะขายทำกำไรตั้งแต่เนิ่น ๆ จะขายหุ้นเมื่อราคาสูงขึ้น และจะซื้อหุ้นมื้อราคาลดลง

3. เทคนิค Momentum จะเป็นการซื้อขายตามแนวโน้ม เป็นการเก็งกำไรตามกระแสและทิศทางของหุ้น

4. กำหนดจุดตัดขาดทุน (Cut loss) ซึ่งมี 2 วิธี คือ

                 4.1. เลือกจุดหยุดขาดทุนที่ยอมรับได้มากที่สุด

                 4.2. เลือกจุดหยุดขาดทุนทางเทคนิคจากตัวนั้น ๆ

5. ดูปริมาณซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ ถ้ามีปริมาณการซื้อหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติเยอะ ตลาดหุ้นจะมีแนวโน้มจะขึ้นต่อได้

6. พิจารณา Bid-Offer เป็นการดูแนวโน้มกำลังซื้อขายของผู้ลงทุนในตลาดต่อหุ้นตัวนั้น ๆ  ซึ่งปริมาณ Bid-Offer สามารถสร้างเป็นความสัมพันธ์และคาดการณ์แนวโน้มหรือทิศทางขึ้น-ลงของหุ้นได้

7. พิจารณา Volume หรือ ปริมาณการซื้อขาย สามารถใช้ดูระดับความสนใจ ตามหลักการเทคนิคคอลการอ่าน Volume สามารถใช้ยืนยันการเกิดหรือการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มและทิศทางของหุ้นได้ ว่ามีความผิดปกติส่งผลกระทบต่อปริมาณการซื้อขายได้มากน้อยเพียงใด

หนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นหุ้นระยะสั้น CFD

การลงทุนเทรดสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง CFD เป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นหุ้นระยะสั้น

หนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นหุ้นระยะสั้น CFD

การลงทุนเทรดสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง CFD เป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเล่นหุ้นระยะสั้น

CFD คืออะไร?

CFD ย่อมาจาก Contract for Difference (สัญญาซื้อขายส่วนต่าง) เป็นสัญญาที่ระบุว่าจะทำการซื้อขายส่วนต่างในราคาสินทรัพย์ CFD เป็นเพียงเครื่องมือตราสารอนุพันธ์ที่สะท้อนราคาของสินทรัพย์อ้างอิง ทำให้สามารถเก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลง โดยไม่จำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์นั้นจริง ๆ CFD เป็นตัวเลือกที่นิยมในการเทรดระยะสั้น เพราะใช้ต้นทุนต่ำและสามารถคาดหวังผลกำไรราคาสูงได้ในตลาดต่าง ๆ ทั่วโลก

ข้อมูลเพิ่มเติม>>> การเทรด CFD คืออะไร

เหตุใด CFD จึงเหมาะสำหรับการเล่นหุ้นระยะสั้น

การเทรด CFD ทำได้ง่าย ๆ เพียงเข้าไปเปิดออเดอร์เทรดทรัพย์สิน จากนั้นรอราคาปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างจากราคาซื้อและขาย

การเล่นตราสารอนุพันธ์หุ้น CFD เริ่มต้นเล่นได้ง่ายแม้ว่าจะมีเงินทุนน้อย สามารถสมัครผ่านโบรกเกอร์ได้ง่ายกว่า และเพื่อเป็นการซื้อขายแบบจบภายในวันเดียว ทั้งนี้ยังทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลง มีเลเวอเรจเป็นตัวช่วย และเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดการสูญเสียเงินทุนจากความไม่แน่นอนได้ CFD จึงเหมาะสำหรับการเล่นหุ้นระยะสั้น

เราควรใช้ประโยชน์จากอัตราทด (Leverage) ของตราสาร หากโบรกเกอร์ CFD ให้อัตราทดที่ 1:20 หมายความว่าเราสามารถวางเงินวางประกัน (Margin) เพียงแค่ 5% ของมูลค่าสัญญาทั้งหมด ยิ่งตัวเลขอัตราทดสูงขึ้นเท่าไหร่ จำนวนเงินวางประกันที่เรียกก็จะยิ่งน้อยลงไปเท่านั้น อัตราทดในตราสาร CFD นั้น เป็นเหมือนการหยิบยืมเงินมาเพื่อการลงทุน ดังนั้นเราควรเลือกลงทุนในระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้เท่านั้นและใช้ประโยชน์จากอัตราทด (Leverage) อย่างมีสติเพื่อให้ทำกำไรได้ทั้งราคาตลาดขาขึ้นและขาลงโดยเหมาะสม

ตัวอย่างการเล่นหุ้นระยะสั้น

ในตัวอย่างนี้จะใช้จะใช้กลยุทธ์ในการซื้อขายรายวันเพื่อใช้ในการเก็งกำไรระยะสั้นด้วย Scalping ซึ่งเป็นกลยุทธ์การทำกำไรโดยการเปิดและปิดการซื้อขายในช่วงสั้นๆ ทำกำไรเพียงไม่กี่จุด ส่วนมากจะอยู่ประมาณ 5-20 จุด พูดง่ายๆ คือ ทำกำไรในหุ้นนั้นทันทีที่ราคาหุ้นขยับไป ถึงจุดที่กำหนด ซึ่งหัวใจของการเทคนิคนี้ คือ “เข้าให้ไว กำไรแล้วรีบออก เน้นกำไรน้อย ๆ แต่เก็บบ่อย ๆ”

ตัวอย่าง ซื้อหุ้น META ที่ราคา 20 บาท ตั้งขาย 20.20 บาท (ยังไม่รวมค่าคอม) เมื่อ หุ้นขึ้นไปถึงราคา 10.20 บาท ก็ขายทำกำไร เพื่อรับกำไร 0.20 บาท ซึ่งเป็นกำไรน้อย ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่สามารถทำกำไรได้ตลอด แบบนี้เราจึงเรียกว่าเป็นการเล่นหุ้นระยะสั้นนั่นเอง

บทสรุป

การเล่นหุ้นระยะสั้นเป็นการเก็งกำไรในระยะเวลาสั้น ๆ และใช้ความผันผวนของตลาดเพื่อสร้างผลกำไรตอบแทน เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงแบบรู้ผลได้อย่างรวดเร็วในเวลาสั้น ๆ ผลดีผลเสียจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละสถานการณ์ความผันผวนของอุปสงค์และอุปทานที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

การซื้อขายระยะสั้นใช้กลยุทธ์และเทคนิคมากมายในการทำเงิน แม้ว่าเราจะเป็นมือใหม่ แต่หากเรามีความรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์และเทคนิคในการเทรดมากเพียงพอแล้ว  การเล่นหุ้นระยะสั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหาใด ๆ กับเทรดเดอร์มือใหม่ที่มีความรู้ สามารถวางแผนการเทรด และมีเวลาในการเฝ้าหน้าจอเทรดเสียเลย

เป้าหมายของกลยุทธ์การซื้อขายใด ๆ ก็คือ การรักษาความสูญเสียให้น้อยที่สุดและทำผลกำไรสูงสุด ซึ่งก็ไม่ต่างกันไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ้นระยะสั้นหรือระยะยาว

สำหรับสัญญาซื้อขายส่วนต่าง หรือ CFD มือใหม่จะเริ่มต้นเล่นได้ง่ายกว่า แม้ว่าจะมีเงินทุนน้อย ก็ยังจะสามารถสมัครผ่านโบรกเกอร์ได้ง่ายกว่า มักเป็นการซื้อขายแบบจบภายในวันเดียว ทั้งนี้ยังทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นขาลง มีอัตราทดหรือเลเวอเรจเป็นตัวช่วย ซื้อขายได้ทันที เพียงส่งคำสั่งซื้อขายสินทรัพย์ตราสารอนุพันธ์หุ้น โดยที่เราไม่ต้องซื้อและเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริง ๆ เป็นเพียงสิ่งที่สะท้อนสินทรัพย์ที่อ้างอิงเท่านั้นและเป็นการลดความเสี่ยงที่จะเกิดการสูญเสียเงินทุนจากความไม่แน่นอนได้ ดังนั้น CFD จึงเหมาะสำหรับการเล่นหุ้นระยะสั้นและ CFD เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเล่นหุ้นมือใหม่

มาเทรดสัญญาส่วนต่าง CFD กับ Mitrade กันดีกว่า

เพราะ

1. Mitrade ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า1,100,000+ รายทั่วโลก

2. Mitrade มีการดำเนินการซื้อขายที่ง่าย สะดวกและรวดเร็ว 

3. Mitrade มีการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลายทั่วโลก

4. Mitrade รองรับการกำหนดค่าเลเวอเรจที่ยืดหยุ่นได้

5. Mitrade มีระบบป้องกันเงินทุนติดลบ เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น การหยุดการขาดทุน/การติดตามการหยุดการขาดทุน

6. Mitrade ควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามกฏระเบียบที่เข้มงวดและให้บริการด้วยความโปร่งใส

7. Mitrade มีการดำเนินการตามคำสั่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้

8. Mitrade มุ่งพัฒนาการดำเนินการตามคำสั่งที่รวดเร็วและเชื่อถือได้

9. Mitrade มีฝ่ายบริการลูกค้าออนไลน์ภาษาไทยตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ

10. Mitrade มีค่าคอมมิชชั่น 0 บาทและค่าสเปรดต่ำ

**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน