เล่นหุ้นเริ่มต้นกี่บาท? ควรเริ่มอย่างไรสำหรับเล่นหุ้นมือใหม่

หลายคนอาจจะได้ยินกันคุ้นหูเกี่ยวกับการเล่นหุ้นที่สามารถทำกำไรได้เยอะมากในแต่ละวัน แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าในโลกความเป็นจริงไม่ง่ายขนาดนั้น เพราะโลกของการลงทุนมีทั้งอาจจะได้กำไรกลายเป็นเศรษฐีได้ในเวลาอันรวดเร็วหรืออาจจะขาดทุนหมดตัวได้ในพริบตา ดังนั้นถ้าเราจะเริ่มต้นเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่ การลงทุนหุ้นแบบถูกวิธีต้องเริ่มจากตรงไหน เราควรเริ่มใช้เงินในการลงทุนกี่บาท และควรเริ่มอย่างไรสำหรับมือใหม่ ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณ

อยากจะ “เล่นหุ้น” ต้องเปิดบัญชีหุ้นก่อน

ในอดีตการเปิดบัญชีหุ้นค่อนข้างจะยุ่งยาก เนื่องจากต้องเดินไปเปิดบัญชีที่สาขาพร้อมถือสำเนาเอกสารต่าง ๆ ไปยืนยันตัวตนมากมาย แต่ไม่ใช่ในยุคนี้อย่างแน่นอน ปัจจุบันนี้เรามีการเปิดบัญชีหุ้นออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่สะดวก รวดเร็ว ประหยัด ไม่ต้องเดินทาง และทำได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยมีขั้นตอนในการเปิดบัญชีหุ้นเพื่อซื้อขาย ดังนี้

1. เลือกโบรกเกอร์ที่เราต้องการขอเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นก่อน โดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือ และอัตราค่าธรรมเนียมในการให้บริการ รวมถึงการบริการลูกค้าและความเสถียรของระบบ

2. ให้ข้อมูล กรอกแบบฟอร์มขอเปิดบัญชีหุ้น ลงทะเบียนบนหน้าเว็บไซด์หรือบนแอพพลิเคชั่นตามขั้นตอนที่กำหนดให้เรียบร้อย

3. จัดส่งหลักฐานประกอบการเปิดบัญชีหุ้น เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนารายการเดินบัญชีหรือ Statement ของธนาคาร หลักฐานยืนยันที่อยู่ เป็นต้น

4. รอผลการพิจารณา 1-10 วัน ซึ่งบางโบรกเกอร์อาจจะใช้เวลาพิจารณาภายใน 2 ชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นเราก็จะเริ่มต้นการเทรดหุ้นได้ทันที

ทั้งนี้เราต้องรู้จักประเภทของบัญชีเทรดหุ้นที่โดยปกติจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภทหลัก แล้วจึงเลือกเปิดบัญชีที่เหมาะสมกับลักษณะบุคลิกภาพในการเล่นหุ้นของเราว่าชอบบัญชีที่ใช้เงินสดเต็มจำนวน หรือชอบใช้เงินลงทุนน้อย แล้วใช้บัญชีที่มีอัตราทดหรือ Leverage เพื่อทำการเล่นหุ้นดีกว่ากัน ประเภทของบัญชีเทรดหุ้น มีดังนี้

1. บัญชีเงินสด หรือ บัญชีวงเงิน (Cash Account) เป็นบัญชีประเภทลงทุนก่อน จ่ายเงินทีหลัง เหมาะสำหรับ นักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนที่มีวินัยในการลงทุนเป็นอย่างดี โดยโบรกเกอร์จะให้วงเงินในการลงทุนที่เหมาะสมตามฐานะทางการเงิน หลักประกัน และความสามารถในการชำระหนี้ จากนั้น เมื่อได้รับการอนุมัติวงเงินแล้ว นักลงทุนต้องวางหลักประกัน 15% ของวงเงินดังกล่าวไว้กับโบรกเกอร์ เช่น ถ้าได้รับอนุมัติวงเงิน 300,000 บาท ต้องวางหลักประกัน 45,000 บาท 

2. บัญชีแคชบาลานซ์ หรือ บัญชีพรีเพด (Cash Balance Account or Pre-Paid Account) เป็นบัญชีซื้อขายหุ้นที่นักลงทุน ต้องฝากเงินไว้กับโบรกเกอร์ที่เปิดบัญชีซื้อขาย 100% หากสั่งซื้อหุ้น เงินจะถูกหักออกจากบัญชีทันที เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่และนักลงทุนที่มีเงินลงทุนไม่มากนัก ต้องการ จำกัดวงเงินการลงทุน หรือกลัวว่าจะเผลอลงทุนเกินจำนวนเงินที่มีในบัญชีหุ้น

3. บัญชีมาร์จิ้น หรือบัญชีเครดิตบาลานซ์ (Margin Account or Credit Balance Account) เป็นบัญชีที่โบรกเกอร์เปิดเพื่อให้สินเชื่อกับนักลงทุนในการลงทุนซื้อหุ้น เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์การลงทุนสูง มีความสามารถในการลงทุน และมีความสามารถในการชำระหนี้ได้ดี โดยนักลงทุนต้องนำเงินสดหรือหลักทรัพย์มาวางเป็นหลักประกันการชำระหนี้ก่อนซื้อหุ้นตามสัดส่วนตามอัตราทด หรือ Leverage ที่โบรกเกอร์กำหนดให้ และต้องจ่ายดอกเบี้ยสำหรับเงินที่กู้มาลงทุนด้วย ทั้งนี้มีข้อควรระวังคือถ้าราคาหุ้นที่วางเป็นหลักประกันไว้ลดลงมากๆ  โบรกเกอร์อาจบังคับให้ลูกค้าวางหลักประกันหรือเรียกเงินสดเพิ่ม หรืออาจถูกบังคับขาย (Forced Sell) และปิดบัญชีโดยอัตโนมัติได้

stock for beginner-8

ทำความเข้าใจว่าค่าธรรมเนียมรวมอะไรบ้าง

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์หรือที่เรียกกันว่าค่าคอมมิชชั่น คำนวณจากมูลค่าซื้อขายต่อวัน ซึ่งมักจะแตกต่างกันตามประเภทของบัญชีด้วย โดยปกติแล้วบัญชี บัญชีแคชบาลานซ์จะมีค่าคอมมิชชั่นถูกกว่าบัญชีเงินสด หลังจากเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นแล้ว นักลงทุนต้องศึกษาค่าธรรมเนียมในการเล่นหุ้นซึ่งมีองค์ประกอบ ดังนี้

1. ค่าธรรมเนียมตลาดหลักทรัพย์ (SET Trading Fee) 0.005% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
2. ค่าธรรมเนียมการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ (TSD Clearing Fee) 0.001% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
3. ค่าธรรมเนียมการกำกับดูแล (Regulatory Fee)  0.001% ของมูลค่าการซื้อขายต่อวัน
4. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7%  ของค่าธรรมเนียมหุ้นหรือค่าคอมมิชชั่น ซึ่งก็คือ 0.007% + VAT 7%
5. ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำต่อวัน เช่น หากมีค่าธรรมเนียมขั้นต่อยู่ที่ 50 บาทต่อวัน หากค่าธรรมเนียมตามจริงที่คำนวณออกมาได้ไม่ถึง 50 บาทในวันนั้น ระบบจะคิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ 50  บาท + VAT 7% แต่ถ้าในวันที่ไม่มีการซื้อขายหรือส่งคำสั่งซื้อขายแล้วไม่เกิดการจับคู่ ก็จะไม่มีค่าธรรมเนียมเกิดขึ้นในวันนั้น

วิธีเลือกหุ้นและกองทุนสำหรับมือใหม่

สำหรับมือใหม่หัดเล่นหุ้น ต้องดูก่อนว่าจะเลือกลงทุนในหุ้นระยะสั้นหรือลงทุนในระยะยาว หากต้องการลงทุนในระยะสั้นให้เลือกดูอันดับหุ้นประจำวันโดยใช้รายการ Top Gainer, Top Swing, Most Active Volume และ Most Active Value เป็นปัจจัยประกอบในการเลือกหุ้นที่มีราคาแกว่งที่สุดระหว่างวัน แล้วเลือกหุ้นที่ชอบ

ส่วนการเลือกลงทุนในหุ้นและกองทุนในระยะยาว ให้ลองเลือกหุ้นจากบริษัทใหญ่ พื้นฐานดี ผลประกอบการ และการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยการดูหุ้นในกลุ่ม SET50 หรือ SET100 ครับ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ถูกคัดเลือกด้วยเงื่อนไขที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดขึ้นมาแล้วว่าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานดี ทั้งนี้อย่าลืมพิจารณาข่าวสารหรือเหตุการณ์สำคัญประจำวันในแต่ละช่วงเวลาที่อาจส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ประกอบด้วย

ควรเลือกหุ้นที่มั่นคงและมีโอกาสเติบโต รวมถึงต้องดูด้วยว่า ราคาหุ้นแพงไปแล้วหรือเปล่า โดยต้องหามูลค่าที่แท้จริง เพื่อซื้อในราคาที่เหมาะสม ไม่แพงเกินไป เช่น ดูค่า P/E ว่าถูกหรือแพง โดยประเมินจุดคุ้มทุน การดูค่า P/E ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเลือกซื้อหุ้นได้

ซอฟต์แวร์ซื้อขายหุ้น หรือ Software Stock

ซอฟต์แวร์ซื้อขายหุ้น หรือ Software Stock คือ ชุดโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายตราสารทางการเงิน เช่น หุ้นและสกุลเงิน และยังสามารถช่วยปรับปรุงการตัดสินใจเลือกหุ้นผ่านคุณสมบัติการวิเคราะห์พื้นฐานและทางเทคนิคได้อีกด้วย เช่น

1. TradingView เป็นผู้ให้บริการกราฟชาร์ตหุ้นของทั่วทั้งโลก และอัตราค่าเงินตราระหว่างประเทศ รวบรวมฐานข้อมูลราคาหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ครอบคลุมเกือบทั่วโลก  และสามารถเปิดดูกราฟได้ทันทีผ่านเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องผ่านแอพลิเคชันใด ๆ อย่างไรก็ตาม Tradingview มีโปรแกรมรองรับ iOS และ Android แถมยังสามารถดูข้อมูลตลาดเรียลไทม์ และข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ ของตลาดหุ้น ตลาดค่าเงินได้ทันที

stock for beginner-1

เช่น EUR/USD, BTC/USD , ETH/USD , Dow, Nasdaq และ S&P 500

2. ZuluTrade เป็นแพลตฟอร์มสื่อกลางที่เชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกลุ่มเทรดเดอร์มืออาชีพกับนักลงทุนรายย่อยทั่วไป ได้มีการออกแบบแพลตฟอร์มสื่อกลางเพื่อช่วยให้นักลงทุนสามารถใช้เงินทำงานในตลาดได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยการ Copy ติดตามการเปิด/ปิดออร์เดอร์ของเทรดเดอร์มืออาชีพ เข้าสู่บัญชีเทรดโดย

stock for beginner-2

อัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้เวลาทั้งหมดนั่งเฝ้าดูกราฟราคาหรือวิเคราะห์แนวโน้มราคา

3. MetaTrader 4  ซอฟแวร์สำหรับเทรดหุ้น คู่สกุลเงิน Forex กองทุน ETF ที่ได้รับความนิยม เป็นเครื่องมือที่ปรับแต่งและประยุกต์ได้หลากหลาย มีฟังก์ชันให้เลือกเยอะ สามารถปรับแต่งเครื่องมือให้มีความเฉพาะตัวกับเทรดเดอร์แต่ละคนได้อย่างเฉพาะตัว และใช้ทรัพยากรในการประมวลผลไม่มาก

stock for beginner-3

4. Sierra Chart เป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์สร้างแผนภูมิ/การวิเคราะห์ทางเทคนิคคุณภาพระดับมือ

stock for beginner-4

อาชีพสำหรับตลาดการเงิน มีชุดเครื่องมือและ Indicator มากมาย

5. NetTraderX  เป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์เครื่องมือสนับสนุนการตรวจสอบแผนภูมิ การเปลี่ยนแปลง

stock for beginner-5

ราคา การวิเคราะห์มาร์จิ้น และตัวชี้วัดทางเทคนิค

เครื่องมือหลักในการชี้วัดดูหุ้นและเครื่องมือการซื้อขายหุ้น

CPI คือ ดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นอินดิเคเตอร์ทางเศรษฐกิจ ช่วยวัดค่าสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงราคาเฉลี่ยของสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่ผู้บริโภคจ่ายเงินซื้อใช้ โดย CPI สามารถบอกมูลค่าที่เปลี่ยนแปลง

GDP คือ การเจริญเบโต และหมุนเวียนในการสร้างรายได้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ เป็นมูลค่ารวมของสินค้าและบริการที่ผลิตขึ้นในประเทศ ณ ช่วงเวลาหนึ่งๆ โดย GDP จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าวมีการเติบโตอย่างไรในช่วงเวลานั้น

แนวต้าน แนวรับ คือ เป็นราคาหุ้นที่มีคนต้องการซื้อ ถ้าความต้องการซื้อมีเข้ามาที่ระดับราคาที่เป็นแนวรับจำนวนมากพอ ก็จะสามารถหยุดไม่ให้ราคาปรับตัวลดต่ำลงไปกว่าระดับราคาแนวรับ ความต้องการขาย ถ้าความต้องการขายมีเข้ามาจำนวนมากพอจะสามารถหยุดไม่ให้ราคาเพิ่มขึ้นไปมากกว่าระดับราคาที่เป็นแนวต้าน

stock for beginner-6
มาจาก www.set.or.th/set/education/

เล่นหุ้นเริ่มต้นกี่บาท? สำหรับการเล่นหุ้นมือใหม่ต้องดูอะไรบ้าง?

สำหรับคนที่เป็นมือใหม่อยากเล่นหุ้น แม้ว่าหุ้นบางตัวแม้จะมีราคาขั้นต่ำในการซื้อขาย แค่หลักพันบาท แต่ก็ยังมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ อีกมากมาย ที่เราจะต้องเสียในระหว่างที่เล่นหุ้น และยังต้องมีจำนวนเงินมาร์จิ้นที่เพียงพอต่อการแกว่งตัวของราคาอยู่ในพอร์ตที่ใช้ลงทุน เราจึงขอแนะนำให้เริ่มลงทุน

ด้วยจำนวนเงินที่เหมาะสม ซึ่งควรจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทหรือมากกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับราคาหุ้นที่นักเทรดสนใจคูณด้วยจำนวนขั้นต่ำคือ 100 หุ้น บวกด้วยค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเป็นต้นทุนอีกตัวหนึ่งที่นักเทรดต้องจ่าย 

ด้วยเงินจำนวน 50,000 บาทนี้จะทำให้เราซื้อหุ้นได้เกือบทุกตัวในตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากเกินไปจนทำให้เดือดร้อนหากขาดทุน แต่ก็ไม่น้อยเกินไปจนไม่รู้สึกเกิดความเสียดาย 

สำหรับการเล่นหุ้นมือใหม่ต้องดู ดังนี้:

1. อายุเท่าไรถึงจะเล่นหุ้นได้

ก่อนเปิดบัญชีซื้อขายหุ้น ทางธนาคารจะขอดูเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อตรวจสอบอายุของนักลงทุน ตามกฎหมายว่าด้วยบุคคลที่บรรลุนิติภาวะ ในอายุ 20 ปีบริบูรณ์ จะทำการซื้อขายหรือทำสัญญาต่าง ๆ ได้โดยไม่เป็นโมฆียะ

2. สำรวจตนเองว่า ทำไมถึงอยากลงทุน

ก่อนจะเข้าสนามการลงทุน เราอาจต้องสำรวจพื้นฐานของตัวเอง รวมถึงเป้าหมายของตัวเราเองก่อน เพื่อที่เราจะสามารถหารูปแบบ และวิธีการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง

3. เลือกโบรกเกอร์

เลือกเปิดพอร์ตหุ้นกับโบรกเกอร์ที่สะดวกต่อการจัดการพอร์ตของคุณ โดยพิจารณาจากค่าธรรมเนียม และคำแนะนำต่าง ๆ ที่ได้จากโบรกเกอร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน โดยตรวจสอบรายชื่อโบรกเกอร์ได้จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สามารถเลือกประเภทบัญชีหุ้น ได้ 3 แบบ

1. Cash Balance บัญชีแคชบาลานซ์ หรือ Pre-Paid เหมาะกับนักลงทุนเริ่มต้น คือ การฝากเงินสดไว้กับโบรกเกอร์ สามารถซื้อขายตามเงินที่ฝากไว้
2. Cash Account บัญชีเงินสด คือ บัญชีที่นักลงทุนวางเงินไว้กับโบรกเกอร์ 20% ของวงเงินที่จะซื้อขาย
3. Credit Balance Account บัญชีมาร์จิน คือ การกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อซื้อหุ้น
ประเภทบัญชีหุ้น

ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมและเงินปันผลที่จะได้รับจะแตกต่างกันไปของแต่ละประเภทบัญชีหุ้น

4. ทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนซื้อหุ้น

เนื่องจากหุ้นแต่ละตัวมีความเสี่ยงที่แตกต่างกัน ก่อนเปิดบัญชีซื้อขายกับทางบริษัทหลักทรัพย์   ต่าง  ๆ จะให้นักลงทุนทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน ซึ่งจะทำให้คุณเข้าใจความเสี่ยงการลงทุนของตัวเองมากขึ้น

5. ศึกษารายละเอียดของหุ้นที่จะซื้อ ดูงบการเงินของแต่ละหุ้น

ก่อนเข้าซื้อหุ้นสักตัว ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดของหุ้นที่จะซื้อ เช่น หุ้นที่จะซื้อนั้นจัดอยู่ในธุรกิจประเภทใด ใครเป็นเจ้าของกิจการ มีปันผลหรือไม่ และรายละเอียดอื่น ๆ

6. ติดตามข้อมูลข่าวสารหุ้นอยู่เสมอ

นักลงทุนควรศึกษาข่าวสารที่น่าสนใจของหุ้น จากหนังสือพิมพ์ เว็บไซต์ และช่องทางของโบรกเกอร์ เพื่อเป็นการต่อยอดความรู้เพิ่มเติม

7. สร้างพอร์ตหุ้น

เมื่อเริ่มซื้อขายหุ้นได้สัก 1-5 ตัว จนเริ่มชำนาญแล้วก็สร้างเป็นพอร์ตหุ้นของตัวเอง ซึ่งพอร์ตหุ้นนี้จะค่อย ๆ เติบโตให้ผลกำไรขึ้นในอนาคต

การวิเคราะห์ทางเทคนิค คืออะไร?

การวิเคราะห์ทางเทคนิค  (Technical Analysis)  คือ การศึกษาพฤติกรรมราคาของหุ้น หรือพฤติกรรมของตลาดในอดีต โดยใช้หลักสถิติ เพื่อนำมาใช้คาดการณ์พฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในอนาคต และช่วยให้ผู้ลงทุนหาจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม โดยข้อมูลหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ ระดับราคา และปริมาณการซื้อขายหุ้น วึ่งข้อมูลเหล่านี้มักถูกแปลงมาเป็นรูปแบบกราฟ เพื่อความง่ายต่อการวิเคราะห์แนวโน้มและเส้นแนวโน้มในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เส้นแนวโน้มขึ้นเป็นเส้นตรง (Uptrend) เส้นแนวโน้มลงเป็นเส้นตรง (Downtrend) เส้นแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลง หรือแนวโน้มราบ (Sideways) แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance)

วิธีการเรียนรู้การซื้อขายหุ้นทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิคมักถูกใช้เพื่อกำหนดจุดซื้อขายให้มีความแม่นยำ การใช้เครื่องมือทางเทคนิคให้ได้ผล จำเป็นต้องซื้อขายหุ้นให้ ถูกที่ถูกเวลา สามารถประเมินโอกาสที่จะเกิดจุดเปลี่ยนแนวโน้มในอนาคตได้อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติและวัฏจักรของราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา

วัฎจักรของราคาหุ้น มี 4 ระยะ ได้แก่

1. ราคาหุ้นในระยะสะสม หลังจากราคาปรับตัวลงมามากพอสมควรแล้ว ในระยะนี้ราคาจะค่อนข้างนิ่ง ขึ้นลงไม่มากนัก แต่กลับมีปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นมากจนผิดสังเกต

2. ราคาหุ้นในระยะขาขึ้น หลังจากที่ผ่านระยะสะสมมาได้ซักพัก ก็จะมีข่าวดีเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ออกมา ทำให้หุ้นตัวนี้ มีแรงซื้อไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งทะยานขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง

3. ราคาหุ้นในระยะแจกจ่าย เมื่อราคาหุ้นขึ้นมาสูงถึงจุดที่เกินมูลค่าแล้ว นักลงทุนรายใหญ่บางกลุ่มจึงถือโอกาสเทขายหุ้นตัวนี้ออกมาสวนทางกับกระแสตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาในช่วงนี้เริ่มมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ ๆ แต่มีปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

4. ราคาหุ้นในระยะขาลง หลังจากที่หุ้นได้ถูกเทขายออกมาเป็นจำนวนมากแล้ว หุ้นตัวนี้จะเริ่มมีข่าวที่ไม่ค่อยดี ทยอยออกมาเรื่อย ๆ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะดีดกลับขึ้นมาใหม่อีกครั้งแล้วกลายเป็นระยะสะสมอีกครั้งหนึ่ง

การใช้เครื่องมือทางเทคนิคเล่นหุ้นจำเป็นต้องเล่นหุ้นที่มีโมเมนตัม คือแรงส่งให้ราคาเคลื่อนตัวบนเทรนด์ราคา ยิ่งเป็นหุ้นที่มีโมเมนตัมสูงก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการทำกำไรจากส่วนต่างของราคา ในทางตรงกันข้ามหุ้นที่ไม่มีโมเมนตัมราคาจะไม่ค่อยขยับและเก็งกำไรยาก  เมื่อเราได้หุ้นที่มีราคาและมูลค่าตามราคาตลาดที่เราสนใจ จำกัดวงมาให้เหลือเพียงหุ้นในอุตสาหกรรมที่น่าสนใจและมีโมเมนตัมสำหรับการเทรด จากนี้เราก็จำเป็นต้องใช้กราฟเทคนิคเข้ามาช่วยในขั้นต่อไป

นอกจากนี้เราเราควรเรียนรู้เกี่ยวกับรูปทรงของกราฟ (Chart Pattern) คือ รูปแบบพฤติกรรมราคาที่มักเกิดขึ้นบ่อย ๆ โดยปกติจะมีลักษณะคล้ายกับการนำเส้นแนวรับ แนวต้าน และแนวโน้มมาผสมผสานกัน การทำความเข้าใจกับ Pattern แบบต่าง ๆ จะช่วยให้ประเมินหาจุดกลับตัวของแนวโน้มได้อย่างละเอียดและชัดเจนยิ่งขึ้น และอย่าลืมหมั่นหาความรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง เพราะนักเล่นหุ้นและนักลงทุนทุกคนต้องหมั่นพัฒนาตนเองเสมอ ๆ ในทุก ๆ วัน

ทำไมขอแนะนำโบรกเกอร์ Mitrade

หากเทรดหุ้น CFD กับ Mitrade จะได้เปรียบมากกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ ดังนี้

1. Mitrade มีค่าสเปรดต่ำเป็นพิเศษ ค่าคอมมิชชั่น ทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น

2. Mitrade ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติตามกฏระเบียบเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำและเรามีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมในการควบคุมที่เข้มงวด เงินฝากของคุณมีความสำคัญอย่างยิ่ง เงินฝากทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในบัญชีประเภททรัสต์ตามที่กฎหมายกำหนด

3. Mitrade ก่อตั้งขึ้นในเมลเบิร์นประเทศออสเตรเลียโดยทีมบุคลากรเฉพาะที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการเทรด การเงิน และเทคโนโลยี 

4. Mitrade มีฝ่ายบริการลูกค้าออนไลน์ภาษาไทยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ

5. Mitrade ให้คุณฝากและถอนเงินผ่านธนาคารไทยได้อย่างสะดวกสบาย

stock for beginner-7

ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมซื้อขายหุ้น โบรกไหนค่าคอมถูกสุด

ตลาดหุ้นเปิดปิดกี่โมง และวันหยุดตลาดหุ้นประจำปี 2564 และ 2565

เปิดพอร์ตหุ้นที่ไหนดี และวิธีการเปิดพอร์ตหุ้น?

การเล่นหุ้นระยะสั้นเหมาะกับมือใหม่ไหม?

P/E Ratio คืออะไร ใช้ยังไง ทำไมคนเล่นหุ้นต้องดู?

**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

รับฟรีทันที! เงินเสมือนจริง $50,000 เพื่อฝึกฝนการเทรดกับ Mitrade!