โทเคน (Token) คืออะไร? TOKEN v.s. COIN ต่างกันอย่างไร?

สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ไฟกระพริบที่กำลังจะศึกษาสกุลเงินดิจิตอล ต้องมีบ้างที่เริ่มสงสัยว่าทำไมบางอันเรียกว่า “เหรียญ” บางอันเรียก “โทเคน” ถ้าเข้าใจความต่างคงจะเห็นภาพชัดมากยิ่งขึ้น แล้วสรุปมันต่างกันยังไง บทความนี้ช่วยได้แน่นอน

โทเคน (Token) คืออะไร?

โทเคน (Token) คือ สกุลเงินดิจตอลที่ถูกสร้างขึ้น เพื่อแสดงสิทธิในการร่วมลงทุน หรือสิทธิอื่น ๆ ที่ได้ทำการตกลงกับผู้ออกโทเคนไว้แล้ว เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เพราะเป็นหน่วยในโลกอินเทอร์เน็ต และมีระบบจัดเก็บข้อมูลไว้อย่างปลอดภัย ซึ่งระบบนั้นถูกเรียกว่า บล็อกเชน (Blockchain) ยกตัวอย่างโทเคน เช่น Tether (USDT), Yearn Finance (YFI), และ Uniswap (UNI) เป็นต้น ซึ่งแบ่งออกได้ ดังนี้

  1. Utility Token เป็นโทเคนที่ให้สิทธิกับผู้ถือในการใช้แลกเปลี่ยนสินค้า และบริการต่าง ๆ ตามที่ระบุเอาไว้ตามเงื่อนไข มักจะมีการระบุขอบเขตของสิ่งของหรือบริการที่สามารถแลกเปลี่ยน และอัตราแลกเปลี่ยนที่ชัดเจนเอาไว้ล่วงหน้า ไม่เช่นนั้น โทเคนนั้นอาจจะถือว่าเป็นสื่อกลางในการชำระเงินแทน
  2. Security Token เปรียบเสมือนหุ้นหรือหลักทรัพย์ ผ่านการกำกับดูแลองค์กรของรัฐ เช่น SiriHub Token โทเคนดิจิตอลเพื่อการลงทุนตัวแรกในประเทศไทย ซึ่งได้รับการดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นต้น
  3. Investment Token มีลักษณะคล้ายกับการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ กล่าวคือ ผู้ถือโทเคนนี้โดยมุ่งหวังว่าจะได้ผลตอบแทนในอนาคตในรูปแบบต่าง ๆ พูดง่าย ๆ ผู้ถือครองจะมีสิทธิในการรับส่วนแบ่งรายได้ รวมไปถึงการปันผลจากธุรกิจด้วย

โทเคนสำคัญอย่างไร

โทเคนเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ เพราะอยู่ในโลกอินเทอร์เน็ตและมีระบบฐานข้อมูลที่ทำการจัดเก็บสิทธิต่าง ๆ ของผู้ถือไว้เป็นอย่างดีบนระบบจัดเก็บข้อมูล เช่น บล็อกเชน ดังนั้น ต่อไปในอนาคต สินทรัพย์หรืออะไรก็ตาม จะสามารถนำมาแปลงเป็นโทเคนได้ และผู้ถือจะได้สิทธิอะไรบ้างนั้น ก็ขึ้นอยู่กับผู้ออกจะกำหนดขึ้นมานั่นเอง โทเคนมีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อเทคโนโลยี “Tokenization” นักลงทุนเองสามารถมีส่วนร่วมในสินทรัพย์ได้ แม้จะเป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ และโทเคนก็จะถูกกำหนดมูลค่าด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังประหยัดเงินและเวลา ใช้งานง่าย แล้วสามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชม. บนบล็อกเชนอีกด้วย

 ตัวอย่างของToken  

  • Tether (USDT)
  • Yearn Finance (YFI)
  • Uniswap (UNI)

หน้าที่ของToken   

โทเคนสามารถแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการได้เหมือนกับเหรียญ แต่จะมีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตามที่ถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้น เช่น การมอบสิทธิ์เข้าถึงบริการของ DeFi หรือ โทเคนที่ผูกมูลค่ากับสินทรัพย์ประเภทอื่นเพื่อให้มีมูลค่าคงที่ (Stablecoin) เป็นต้น

ลักษณะเฉพาะ

มีจุดเด่นเรื่องการเป็นหนึ่งใน “เครื่องมือที่ช่วยให้การทำงานที่เฉพาะเจาะจงนั้นง่ายยิ่งขึ้น” ตัวอย่างเช่น CELER (CELR) เป็นโปรเจกต์ที่พัฒนาขึ้นจากบล็อกเชนของ Ethereum ขึ้นมา เพื่อสร้างระบบการชำระเงินบนบล็อกเชนให้เสถียรและรวดเร็ว  ด้วยแนวคิดที่คำนวนการทำธุรกรรมที่จะถูกแยกออกมาเฉพาะ แต่ยังทำงานอยู่บน ETH แน่นอนว่าสร้างรับชำระด้วยเหรียญต่าง ๆ ใน ERC-20 ได้เช่นกัน

token-coin

Coin คืออะไร?

เหรียญ (Coin) คือ สกุลเงินดิจิตอลที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมีเครือข่ายบล็อกเชนของตนเอง เปรียบได้กับเงินที่ใช้แลกเปลี่ยน แต่อยู่ในรูปแบบดิจิตอล และกำลังมีโปรเจกต์เพื่อพัฒนาเครือข่ายในอนาคตด้วย

ตัวอย่างของ Coin

  • Bitcoin (BTC)
  • Ethereum (ETH)
  • Dogecoin (DOGE) 

หน้าที่ของ Coin

ปัจจุบัน เหรีญยมีวัตถุประสงค์คล้ายกับเงินจากโลกจริง (Physical coin) ส่วนมากถูกใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง ๆ ขณะที่ราคาของเหรียญมักจะผันผวนตามความต้องการและปริมาณเหรียญในตลาด

และบางเหรียญยังสามารถนำมาจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมเครือข่าย (Gas fee) ที่ผู้ใช้ต้องจ่ายเพื่อใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของเครือข่ายบล็อกเชน อาทิ จ่าย Ether (ETH) เพื่อสร้าง Smart contract บนเครือข่าย Ethereum เป็นต้น

ลักษณะเฉพาะ

นอกจากจะสามารถใช้เธรดและซื้อขายแลกเปลี่ยนคล้ายเงินในชีวิตจริงได้แล้ว ยังสามารถ “ขุด (Mine)” เหรียญได้อีกด้วย เนื่องจากเจ้าของคริปโตต่าง ๆ จะทยอยปล่อยเหรียญของตัวเองออกมาในระบบบล็อกเชนผ่านการทำธุรกรรมที่เข้ารหัส (Encryption) ไว้ ซึ่งหากนักขุด (Miner) คนใดสามารถถอดรหัสชุดตัวเลขนั้น ๆ ได้สำเร็จก็จะได้รับรางวัลเป็น Crypto Coin ในระบบนั้น ๆ และทำให้มูลค่าของ Cryptocurrency พุ่งสูงขึ้นนั่นเอง

ความแตกต่างระหว่าง Token และ Coin คืออะไร?

ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างโทเคน และเหรียญ (Coin)

CoinToken
วัตถุประสงค์กาใช้งานใช้เพื่อการแลกเปลี่ยนมีวัตถุประสงค์เฉพาะเจาะจง
บล็อกเชนของตัวเองมีไม่มี
 ตัวอย่าง  Bitcoin (BTC), Ether (ETH)เหรียญที่สร้างบน ethereum blockchain, Zipmex Token (ZMT)

หากจะสรุปสั้น ๆ แล้วละก็ Coin ก็เปรียบเสมือนกับเงินที่เราใช้ในชีวิตประจำวันที่มีมูลค่าในตัวของมันเองและมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกลไกตลาดและเศรษฐกิจ และมีระบบ Blockchain เป็นของตนเอง


ส่วน Token นั้นจะไม่มีระบบ Blockchain เป็นของตนเองและมีการทำงานคล้ายกับเหรียญใน Game Center ที่จะสามารถใช้งานได้ “ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด” เพียงเท่าน

สรุป

โทเคน (Token) ถูกสร้างบนเครือข่ายบล็อกเชนอื่น ๆ เช่น Ethereum ผ่านการเขียน Smart contract จะมีคุณสมบัติเฉพาะที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น สิทธิพิเศษในการเข้าถึงบริการ ลดค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย หรือจ่ายปันผลตามที่เงื่อนไขระบุ ส่วนเหรียญ (Coin) ถูกสร้างขึ้นบนเครือข่ายบล็อกเชนของตัวเอง สามารถนำมาใช้แลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่าง ๆ และเหรียญของบางเครือข่ายสามารถใช้จ่ายเป็น Gas Fee ได้อีกด้วย ทั้งโทเคนและเหรียญต่างมีข้อดีและการใช้งานที่แตกต่างกัน หากมีความเข้าใจในส่วนนี้ จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น และช่วยในการตัดสินใจลงทุน แต่ควรพึงระลึกไว้เสมอว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

ข้อมูลเพิ่มเติม >>>

เหรียญ DOT (polkadot) คืออะไร? เหรียญใหม่มาแรง

เหรียญ NEAR คืออะไร? ดีไหม? จะล้ม Ethereum ได้หรือไม่?

เว็บเทรดคริปโตที่ไหนดี? 10 เว็บยอดนิยมในไทย – 2022

Bitcoin Cash คืออะไร? และ Hard fork ทำงานอย่างไร?

แนะนำ 10 เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนระยะยาว 2022

Polygon (MATIC Coin) คืออะไร? ทำงานร่วมกับ Ethereum ได้อย่างไร?

XLM coin คืออะไร? เหรียญ XLM ดีไหม? คู่แข่งสำคัญของ Ripple

Eos coin คืออะไรและแตกต่างจาก Ethereum ได้อย่างไร?

Litecoin คืออะไร? Litecoin กับ Bitcoin แตกต่างกันอย่างไร?

Cardano (ADA) คืออะไร? อนาคต เหรียญ ADA จะเป็นอย่างไร?

**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

รับฟรีทันที! เงินเสมือนจริง $50,000 เพื่อฝึกฝนการเทรดกับ Mitrade!