บิทคอยน์ Bitcoin คืออะไร ซื้อขายที่ไหน? 1 btc เท่ากับกี่บาท

เชื่อว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพื่อนๆทุกคนได้เห็นข่าวการพุ่งของราคาบิทคอยน์ในข่าว จากจุดสูงสุดถึงต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าตลาดวัวของบิทคอยน์ สิ้นสุดลงแล้ว ตามการทำนายแบบจำลอง Stock-to-Flow (S2F) ราคาของบิทคอยน์จะเพิ่มขึ้นเมื่อมันลดลงครึ่งหนึ่งและความขาดแคลนเพิ่มขึ้น ในอนาคต บิทคอยน์จะยังคงเป็นหุ้นที้ได้รับความนิยมเป็นเวลานาน
Table of Contents
บิทคอยน์ Bitcoin คืออะไร
บิตคอยน์ Bitcoin คือ สกุลเงินในรูปแบบดิจิทัล ถูกสร้างโดยภาษาคอมพิวเตอร์ เพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ โดยไม่ขึ้นกับสกุลเงินใด ๆ ไม่มีรูปร่างและไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญทั่วไป โดยบิตคอยน์มีหน่วยเงินตราเป็น BTC เหมือน ๆ กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หรือสกุลเงินบาทไทย ซึ่งบิตคอยน์ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2552 และเริ่มถูกนำไปใช้แลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้ากันจริง ๆ ในโลกออนไลน์ตั้งแต่นั้นเป็นต้น
อย่างที่เราทราบกันดีว่า บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่กระจายศูนย์ ไม่ได้ออกโดยประเทศและธนาคารและไม่ถูกจำกัดโดยพรมแดนและธนาคาร และไม่ต้องมีการค้ำประกันจากบุคคลที่สาม ผู้ใช้สามารถทำการเทรดบิทคอยน์ได้ผ่านอินเทอร์เน็ต
การเทรดบิทคอยน์ตระหนักถึงกระบวนการเทรดผ่านเทคโนโลยี บล็อกเชน blockchain ทุกธุรกรรม โดยมีลายเซ็นดิจิทัลและบันทึกธุรกรรมทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้อย่างไร้ตัวตน ทำให้การทำธุรกรรมด้วยบิทคอยน์นั้นปลอดภัย ตรวจสอบได้ และรวดเร็ว โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีหน่วยงานหรือรัฐบาลใดมาควบคุม
ลักษณะของ Bitcoin
1.การกระจายศูนย์
บิทคอยน์เป็นสกุลเงินเสมือนแบบกระจายศูนย์ การกระจายศูนย์ที่นี้สัมพันธ์กับการรวมศูนย์ เราทุกคนรู้ดีว่าสกุลเงินเฟียตเป็นสกุลเงินที่รวมศูนย์ ดังนั้นการรวมศูนย์ที่กล่าวถึงนี้คืออะไรและการกระจายศูนย์แตกต่างกันอย่างไร?
การรวมศูนย์ สกุลเงินสามารถหมุนเวียนได้อย่างถูกกฎหมายก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากกฤษฎีกาของรัฐบาล ธุรกรรมสกุลเงินfiatแบบดั้งเดิมจะดำเนินการผ่านธนาคาร แต่ละธนาคารจะรวบรวมข้อมูลธุรกรรมของผู้ใช้ไปยังธนาคารกลางเพื่อการประมวลผลแบบรวมศูนย์ ดังนั้นธนาคารกลางที่นี่จึงเป็นศูนย์กลาง
กระจายศูนย์ บิทคอยน์ออกและซื้อขายโดยอัตโนมัติโดยคอมพิวเตอร์ ไม่จำเป็นต้องมีบทบาทคล้ายกับธนาคารกลางและไม่จำเป็นต้องมีการแทรกแซงของสถาบันจากส่วนกลาง ดังนั้นจึงตระหนักถึงการกระจายศูนย์
2.สภาพคล่อง
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว บิทคอยน์เป็นสกุลเงินที่กระจายศูนย์ ไม่มีขอบเขตของประเทศ ผู้คนในประเทศใด ๆ สามารถซื้อและขายบิทคอยน์ผ่านระบบบิทคอยน์ ตราบใดที่มีอินเทอร์เน็ต บิทคอยน์ก็สามารถไหลได้อย่างอิสระ
3.การกลับไม่ได้
เรารู้ดีว่าในชีวิตจริง หากคุณทำธุรกรรมการโอนผิดพลาด เป็นไปได้ว่าที่จะเรียกคืนผ่านธนาคาร แต่เนื่องจากลักษณะการกระจายศูนย์ของบิทคอยน์ จึงไม่มีสถาบันของบุคคลที่สามที่จะช่วยคุณในการพิจารณาว่าเงินนั้นถูกโอนไปอย่างไม่ถูกต้องหรือไม่และจำเป็นต้องคืนเงินหรือไม่ ดังนั้นเมื่อธุรกรรมของคุณได้รับการยืนยันและดำเนินการโดยระบบแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงย้อนหลังได้
4.จำนวนคงที่
ปรารถนาดั้งเดิมในการสร้างบิทคอยน์ คือเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการเงินในปี 2008 การออกเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มเติมนำไปสู่วิกฤตการเงินซึ่งนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก จำนวนบิทคอยน์ทั้งหมดคือ 21 ล้าน แต่ในความเป็นจริงจำนวนบิทคอยน์นั้นไม่มากเท่ากับตอนที่ออก เนื่องจากหลังจากพัฒนามาเป็นเวลานานผู้ถืออาจลืมคีย์ส่วนตัวของกระเป๋าสตางค์และทำให้บิทคอยน์จำนวนมากสูญหายไปอย่างถาวร
การกระจายศูนย์และคุณลักษณะอื่น ๆ ทำให้ความเท่าเทียมกันของชนชั้นทางสังคมและสถานะเป็นไปได้ บล็อกเชนคว้าธุรกิจของยักษ์ใหญ่ในเมืองหลวงและข้อมูลของผู้ใช้ไม่ได้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของยักษ์ใหญ่อีกต่อไป แต่ถูกแบ่งปันโดยคนทั้งสังคมซึ่งใช้ประโยชน์จากข้อมูล้ได้อย่างคุ้มค่า

Bitcoin ทำงานอย่างไร
Satoshi Nakamotoได้อธิบายถึงระบบเงินสดอิเล็กทรอนิกส์แบบเพียร์ทูเพียร์ในบทความ Bitcoin:a peer-to-peer electronic cash system ในปี 2008 หลังจากเห็นบทความนี้ วิศวกรชั้นนำหลายคนบนอินเทอร์เน็ตเริ่มสร้างระบบตามเนื้อหาที่เขียนไว้ในบทความและดำเนินการระบบ Bitcoin ได้สำเร็จในเดือนมกราคม 2552 ดังนั้นผู้คนก็เริ่มขุดในระบบ Bitcoin ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน
เพื่อน ๆ อาจสงสัยกันว่าจะทำความเข้าใจกับบล็อกเชน blockchain และการขุดที่นี่ได้อย่างไร พูดง่ายๆก็คือ บล็อกเชนคือสมุดบัญชีสาธารณะแบบเปิด และรับประกันความปลอดภัยโดยวิทยาการเข้ารหัสลับ
ระบบบิทคอยน์เองก็เหมือนกับเหมืองทองคำเสมือนจริง กระบวนการรับบิทคอยน์จากเหมืองทองคำเสมือนนี้เรียกว่าการขุด การขุดบิทคอยน์เป็นกระบวนการเพิ่มธุรกรรมใหม่ให้กับบล็อกเชนบิทคอยน์
1 btc เท่ากับกี่บาท?
มูลค่าของบิทคอยน์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนสกุลเงินอื่น ๆ ตามกลไกตลาด มูลค่า Bitcoin ซึ่งมีราคาที่เป็นไปตามอุปสงค์และอุปทานของตลาด มากกว่าปัจจัยทางด้านพื้นฐานของธุรกิจซึ่งไม่เหมือนกันกับราคาของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ โดยอัตราแลกเปลี่ยนแรกของบิทคอยน์ถูกกำหนดขึ้นในเดือนตุลาคม 2552 ไว้ที่ 1 BTC เท่ากับ 0.000764 USD กระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 2553 บิทคอยน์สามารถเพิ่มมูลค่าอย่างรวดเร็วเป็น 1 BTC เท่ากับ 0.50 USD และค่อย ๆ มีมูลค่าขึ้นมาเรื่อย ๆ กลายเป็นหลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น และในปัจจุบัน 1 BTC ในวันที่ 7 มกราคม 2565 เท่ากับ 42,878.93 USD หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,441,289.47 บาท
บิทคอยน์นั้นเริ่มเป็นกระแสโด่งดังขึ้นมาในเมืองไทย เนื่องจากมีกลุ่มแฮกเกอร์ปล่อยไวรัสเรียกค่าไถ่ WannaCry ซึ่งเรียกเก็บเงินกับผู้ที่ติดไวรัสเป็นสกุลเงินบิทคอยน์ ทำให้เป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก จนบิทคอยน์มีมูลค่าพุ่งสูงสุดในเดือนธันวาคม 2560 ทำสถิติไว้ราว 20,000 USD ต่อ 1 BTC หรือกว่า 600,000 บาท แต่หลังจากนั้นไม่นาน ราคาบิทคอยน์ร่วงลงและมีความผันผวนเป็นอย่างมาก จนเริ่มเกิดกระแสความกังวลเป็นวงกว้างถึงภาวะฟองสบู่แตกในตลาดบิทคอยน์ และแล้วสุดท้ายบิทคอยน์ร่วงลงอย่างหนักตลอดปี 2561-2562 ทำจุดต่ำสุดที่ประมาณ 3,200 USD ส่งผลให้นักลงทุนขาดทุนยับเยินเป็นอย่างมาก
ต่อมาราคาบิทคอยน์ยังผันผวนต่อเนื่อง จนประมาณกลางปี 2563 ราคาเริ่มดีดตัวกลับขึ้นมาเรื่อย ๆ และสร้างสถิติใหม่ในเดือนธันวาคม 2563 ที่มีมูลค่าทะลุไปกว่า 27,000 USD ต่อ 1 BTC หรือกว่า 800,000 บาท ก่อนจะพุ่งแตะหลักล้านเป็นครั้งแรกในวันที่ 3 มกราคม 2564 ที่ 34,800 USD หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1.01 ล้านบาท และมีท่าทีว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
กระทั่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 บริษัท เทสลา อิงค์ ของอีลอน มัสก์ ค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของโลก ได้เข้าซื้อบิทคอยน์มูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 45,000 ล้านบาท) และประกาศว่าจะให้ลูกค้าใช้เงินบิทคอยน์โดยการเปิดรับการชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ในการซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ด้วย เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ราคาบิทคอยน์พุ่งสูงถึง 15% แตะ 44,795 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านบาท) ต่อ 1 BTC ทำปรากฏการณ์อีกครั้ง และเดือนเมษายน 2564 ราคาพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ไปแตะที่ 2 ล้านบาท ประมาณ 63,540 USD ต่อ 1 BTC หรือมูลค่ากว่า 2,129,446 บาท
เราจึงสรุปได้ว่า บิทคอยน์ถือเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนเป็นอย่างมาก สามารถขึ้นลงได้ 30% ภายในวันเดียว และเคยร่วงถึง 800 USD ภายในชั่วโมงเดียว ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเงินสกุลปกติ เพราะฉะนั้นผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไร ควรจะต้องศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียด มีการวางแผน ติดตามสื่อข่าวสารรอบตัว และทุกรูปแบบการลงทุนไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลงย่อมมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ควรลงทุนแต่พอดี แต่ความผันผวนของราคาก็เป็นช่องทางในการทำกำไรอย่างรวดเร็วด้วยเช่นเดียวกัน เรียกว่าเทรดเดอร์ต้องฝึกฝนและทำความเข้าใจในผลิตภัณฑ์บิทคอยน์อย่างลึกซึ้ง ถ่องแท้ เพื่อทำกำไรได้อย่างมืออาชีพ โดยเริ่มจากการเรียนรู้ในวันนี้ และฝึกฝนไปเรื่อย ๆ ในที่สุดแล้วด้วยความเพียรและความรู้จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จในการลงทุนอย่างแน่นอน
จะรับ Bitcoin ต้องทำอย่างไร
การขุด Bitcoin
การขุดเป็นวิธีเดียวที่จะได้รับบิทคอยน์ที่ยังไม่ได้พัฒนาและจำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ขุดมืออาชีพ ในยุคแรกของบิทคอยน์ การขุดบิทคอยน์ทำได้กับคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ใช้ CPU ในการคำนวณปัญหาทางคณิตศาสตร์ แต่เนื่องจากจำนวนคนขุดแร่เพิ่มขึ้นและความยากของการขุด Bitcoin ก็ถูกปรับเปลี่ยน คนขุด Bitcoin ด้วย CPU ก็ยากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเครื่องขุด Bitcoin จึงปรากฏขึ้น
หลังจากความนิยมในการขุด ฟาร์มขุด bitcoin บางแห่งก็ปรากฏตัวขึ้น คือเครื่องขุดหลายเครื่องรวมอยู่ในที่เดียวสำหรับการขุดและการบำรุงรักษาและการจัดการแบบครบวงจร เพื่อลดลงต้นทุนการขุด
การซื้อขายบิทคอยน์ผ่านเว็บ
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว มีฟาร์มขุดปรากฏขึ้นเป็นจำนวนมาก การขุดบิทคอยน์จึงเป็นเรื่องยากสำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งต้องลงทุนทั้งเวลาและต้นทุนเงินเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นหากคุณต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย เราขอแนะนำให้คุณซื้อขายผ่านเว็บซื้อขายบิทคอยน์ มือใหม่สามารถซื้อบิทคอยน์ผ่านบัตรธนาคาร บัตรเครดิตหรือวิธีการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆได้ ซึ่งสะดวกและปลอดภัยกว่า

แพลตฟอร์มการซื้อขาย Bitcoin ที่เชื่อถือได้ในประเทศไทย
ข้อมูลพื้นฐานของบิทคอยน์ได้รับการแนะนำมาแล้ว เรามาดูแพลตฟอร์มที่สามารถซื้อขายบิทคอยน์ในประเทศไทยกัน
Bitkub
เป็นแพลตฟอร์มยุคใหม่ของการซื้อขาย และเก็บเหรียญต่าง ๆ ด้วยเงินบาท เป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซื้อขายสบายใจ ปลอดภัยหายห่วง
ธุรกิจ มีทั้งหมด 30+ เหรียญ เหรียญ Bitcoins เหรียญ ETH เหรียญ XRP และ Stellar เหรียญ USDT…
ความเร็วการฝากถอนเงินบาท ทางBitkubซัพพอร์ตหลายธนาคาร ธนาคารที่ประมวลผลเร็วที่สุดคือธนาคารกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ จะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีถึง 2 ชั่วโมง
ค่าธรรมเนียมการจัดการ โดยปกติ คิดค่าธรรมเนียมเทรดไว้ที่ 0.25% จากทุกๆการเทรด
ข้อดี
- ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. ปลอดภัย
- สามารถเข้าร่วมได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีทุนมากหรือน้อย
- ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนมาก
- มีแอพ Android และ iOS
- มีตัวช่วยแจ้งเตือนผ่าน LINE
- ระบบฝากถอนที่รวดเร็วในระดับวินาที
- บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อเสีย
- มีแค่ Spot trading
- มีค่าธรรมเนียม
Satang Pro
เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของคนไทย ได้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ผ่านมาตรฐาน ISO/IEC 27701:2019 Privacy Information Management ระบบการจัดการความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ซึ่งเป็น Exchange แรก และแห่งเดียวในประเทศไทยที่ได้การรับรองตามมาตรฐานนี้
ธุรกิจ มีทั้งหมด 10+ เหรียญ BTC (bitcoin) USDT (Tether) ETH (Ethereum) DOGE TRX (TRON)
ความเร็วการฝากถอนเงินบาท สามารถฝากเงินบาทแบบสแกน qr code เงินเข้าทันที สะดวกดี ถอนสามารถเลือกได้ว่าจะถอนแบบปกติ(ฟรี แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่อนุมัติ) หรือถอนทันที (มีค่าธรรมเนียม)
ค่าธรรมเนียมการจัดการ
1.ค่าธรรมเนียมในการเทรด 0.2%
2.ถอนเงินแบบทันที ค่าธรรมเนียม 18 บาท ต่อรายการ
3.ถอนเหรียญจาก binance ฟรี
ข้อดี
- ให้ลูกค้าติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
- ฝากถอนเงินบาทกับบัญชีธนาคารที่ผูกไว้ ได้รับเงินทันทีภายใน 30 วินาที
- ฟรีค่าธรรมเนียมหากถอนเงินคริปโตจาก Binance มาที่ Satang Pro
- รับโบนัส 25% จากค่าธรรมเนียมมูลค่าการเทรดของผู้ที่ท่านแนะนำมาเปิดบัญชี Satang Pro
ข้อเสีย
- สภาพคล่องไม่สูงมาก
- มีค่าธรรมเนียม
นอกเหนือจากสองแพลตฟอร์มที่แนะนำข้างต้นแล้ว ประเทศไทยยังมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่น่าลอง แต่ฉันอยากจะแนะนำให้คุณรู้จักอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษเมื่อเร็วๆนี้ คือแพลตฟอร์ม MITRADE
MiTRADE

เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย CFD มันไม่ใช่ธุรกรรม bitcoin จริง แต่เป็นสัญญาเพื่อความแตกต่าง ดังนั้นคุณจึงไม่ได้ถือ bitcoin จริง ๆ เมื่อทำการซื้อขายบนแพลตฟอร์มประเภทนี้ แต่คุณสามารถสร้างรายได้ผ่านความแตกต่างของราคาที่ผันผวนของ bitcoin ได้
ก่อนอื่นมาดูข้อมูลคร่าว ๆของแพลตฟอร์มนี้กัน MITRADE เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลียที่ให้บริการ CFD ผ่านระบบออนไลน์ MiTRADE ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การควบคุมของ ASIC และถือ Australian Financial Services Licence เป็นแพลตฟอร์ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้
ธุรกิจ มีทั้งหมด 5+ เหรียญ อีเธอเลียม Ripple (XRP) Litecoin (LTC) Bitcoin Cash (BCH)
ความเร็วการฝากถอนเงินบาท Mitrade นำเสนอวิธีการฝากเงินที่หลากหลายรวมถึงแต่ไม่จำกัดวิธีการดังต่อไปนี้:
Visa/Mastercard – โดยทั่วไปแล้วทันที |
อินเทอเน็ตแบงกิ้ง – ภายใน 1 วันทำการ |
e-Wallet (เช่น Skrill, Momo, Zalo, Touch’n GO และ Boost เป็นต้น) – โดยทั่วไปเงินจะเข้าทันที |
บัตร ATM – โดยทั่วไปแล้วทันที |
การฝากเงินผ่านคิวอาร์โค้ด – โดยทั่วไปแล้วทันที |
การโอนเงินผ่านธนาคาร – โดยทั่วไปแล้วทันที |
ค่าธรรมเนียมการจัดการ ไม่มีค่าธรรมเนียมการจัดการ
ข้อดี
- มีระบบป้องกันยอดคงเหลือติดลบและเครื่องมือจัดการความเสี่ยงต่างๆ ให้ใช้ฟรี
- มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คนไทยให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ
- ปริมาณซื้อขายต่ำสุด 0.01 ล็อต
- ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรดต่ำ
- เลเวอเรจในการเทรด Bitcoin คือ 1:10
ข้อเสีย
- มีประเภทบัญชีเทรดน้อย
- ไม่รองรับการเทรดแบบ scalping
มือใหม่หลายคนอาจมีเงินทุนเพียงเล็กน้อยในช่วงแรก และอย่ากสร้างรายได้จากการเก็งกำไรต้นทุนต่ำ จากนั้นคุณสามารถลองใช้แพลตฟอร์ม Mitrade
เราทราบดีว่า มือใหม่อาจมีความสับสนหลายอย่างก่อนที่จะลงทุนใน Bitcoin เรามาดูประเด็นเหล่านี้ด้วยกันค่ะ
บิทคอยน์ Bitcoin ถูกกฎหมายหรือไม่?
ผู้คนเริ่มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่พวกเขาสงสัยว่า Bitcoin นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ สิ่งที่แน่นอนคือในตอนนี้ได้มีการยืนยันจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ว่าอนุญาตให้ 7 สกุลเงินดิจิตอลสามารถนำมาใช้ในการซื้อขายได้ ประกอบด้วย เงินสกุล Bitcoin, Bitcoin Cash, Ethereum, Ethereum Classic, Litecoin, Ripple และ Stellar แต่การซื้อขายออนไลน์เต็มไปด้วยความเสี่ยง ดังนั้นทุกคนต้องระมัดระวังเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวง
Bitcoin น่าลงทุนหรือไม่?
Bitcoin มีค่าเนื่องจากหลายคนยอมรับบิทคอยน์เป็นวิธีการชำระเงิน บิทคอยน์ไม่ใช่สกุลเงินที่ถูกกฎหมาย แต่เป็นเหมือนสินค้าโภคภัณฑ์ คนส่วนใหญ่ลงทุนในบิทคอยน์ด้วยความหวังว่ามันจะแข็งค่าขึ้นแล้วขายต่อเป็นเงินสด บิทคอยน์เป็นเหมือนเกมทุน คนทั่วไปมักจะพึ่งพาการพนันและโชคได้เท่านั้นหากคุณโชคดี คุณอาจทำกำไรได้จากการลงทุนในบิทคอยน์ ดังนั้นขอแนะนำให้คุณเลือกลงทุนตามความสามารถทางการเงินของคุณเอง
ความเสี่ยงของการลงทุน Bitcoin มีอะไรบ้าง?
สำหรับมือใหม่ สิ่งแรกที่พวกเขาพบคือความเสี่ยงของแพลตฟอร์มการซื้อขาย
ดังนั้นในการเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายอย่าฟังคำชมของพนักงานขายต่าง ๆและไปที่แพลตฟอร์มขนาดเล็กที่ไม่รู้จัก ควรเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายหลักเพื่อลงทุนในบิทคอยน์ในประเทศไทย
นอกจากนี้หากคุณเลือกที่จะลงทุนใน บิทคอยน์ ขอแนะนำให้คุณเรียนรู้ความรู้ด้านการลงทุนและตั้งสติเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการซื้อขาย
บิทคอยน์สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้หรือไม่
ระบบบิทคอยน์เป็นเครือข่ายการชำระเงินแบบเพียร์ทูเพียร์แบบกระจายศูนย์ที่ควบคุมโดยผู้ใช้และไม่ต้องการการดูแลจากบุคคลที่สาม จากมุมมองของผู้ใช้ บิทคอยน์เปรียบเสมือนเงินสดของอินเทอร์เน็ต ดังนั้นผู้ใช้สามารถซื้อและขายบิทคอยน์บนแพลตฟอร์มการซื้อขายแล้วแลกเปลี่ยนบิทคอยน์เป็นเงินสด

สรุป
บิทคอยน์ Bitcoin คืออะไร?
บิทคอยน์ Bitcoin เป็นสกุลเงินเสมือนแบบกระจายศูนย์ที่ไม่ได้ออกโดยรัฐหรือธนาคารไม่ต้องการการค้ำประกันจากบุคคลที่สามตราบใดที่มีอินเทอร์เน็ตผู้ใช้ก็สามารถซื้อขายได้โดยตรง
จะรับ Bitcoin ต้องทำอย่างไร
การขุด Bitcoin
การซื้อขายบิทคอยน์ผ่านเว็บ
แพลตฟอร์มการซื้อขายบิทคอยน์ Bitcoin ที่เชื่อถือได้ในประเทศไทย
Bitkub
Satang Pro
MITRADE
**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน
ใส่ความเห็น