เหรียญ Ripple (XRP) คืออะไร ซื้อดีไหม เทรดดีไหม?

นอกจาก Bitcoin แล้ว ในโลกของนักลงทุนนั้นยังคงมีสกุลเงินดิจิตอลหรือเหรียญคริปโตเคอเรนซีอื่น ๆ อีกมากมาย บทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับเหรียญยอดฮิต XRP ที่ติด Top 10 มาอย่างยาวนาน เราจะซื้อเหรียญหรือจะเทรดเหรียญดี เราขอแนะนำว่าหากจะซื้อเหรียญควรมีเงินลงทุนเยอะหน่อย แต่หากจะเทรดเหรียญอาจไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนเยอะก็ได้ เนื่องจากเราสามารถใช้การเทรดสัญญาส่วนต่าง CFD เป็นเครื่องมือในการทำกำไรที่ช่วยให้สะดวกและรวดเร็วกว่า

เปิดบัญชีเดี๋ยวนี้

Ripple คืออะไร?

เหรียญ Ripple หรือตัวย่อคือเหรียญ XRP นั้นเป็นเหรียญที่ถูกสร้างโดยบริษัทที่ชื่อว่า Ripple ซึ่งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกก่อตั้งเมื่อปี 2012 โดยนาย Ryan Fugger (ไรอัน ฟัคเกอร์) โดยหลัก ๆ นั้นเป็นบริษัทที่ให้บริการด้าน Payment gateway เจาะกลุ่มเป้าหมายธนาคารและสถาบันการเงิน มีรายงานว่านายฟัคเกอร์นั้นได้กลายเป็นมหาเศรษฐีจากการที่เหรียญ Ripple ราคาพุ่งสูงขึ้นมามาก

Ripple ได้เปิดตัว เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมทางการเงินทั่วโลก ซึ่งมีจุดเด่นที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มของสกุลเงินดิจิตอลตัวอื่น ๆ เพราะได้เชื่อมต่อกับธนาคารอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และถูกควบคุมโดยบริษัทสถาบันการเงิน ตัวอย่างของบริษัทที่ใช้แพลตฟอร์ม Ripple ได้แก่ Santander (SANPRA), Bank of America (BAC) และ UBS (UBS)

Ripple ไม่สามารถขุดจากผู้ใช้งานหรือบุคคลธรรมดาทั่วไปได้ โดยมันจะถูกควบคุม node เก็บประวัติการทำธุรกรรมทั้งหมดโดยบริษัทและสถาบันการเงินทั่วไป นั่นหมายความว่าเหรียญดังกล่าวจะถูกเสกออกมากลางอากาศเท่าไรก็ได้ อีกทั้งยังมีความคล้ายกับธนบัตรสูง คือไม่รู้ว่าจะมีการผลิตออกมาอีกเป็นจำนวนเท่าใด ส่วนกลางสามารถควบคุมปริมาณและผลิตออกมาได้เรื่อย ๆ โดย Ripple ถูกสร้างขึ้นมาประมาณ100,000,000,000 เหรียญในระลอกแรก และมี 38,000,000,000 เหรียญที่มีการหมุนเวียนอยู่ในตลาดปัจจุบัน และยังสามารถปล่อยออกมาได้ในตลาด 1,000,000,000,000 ต่อเดือน ซึ่งคาดการณ์กันว่าการเพิ่มอุปทานในระบบแบบนี้อาจส่งผลต่อราคาตลาดอย่างมาก

Ripple ทำงานอย่างไร?

การทำงานของ Ripple อาจมีความแตกต่างจากสกุลเงินดิจิตอลชนิดอื่น ๆ โปรโตคอล (Protocol) การทำงานของ Ripple จะเป็นแบบกระจายที่ไม่มีศูนย์กลางในการควบคุมแต่ทุก ๆ คนที่อยู่ในระบบจะทำหน้าที่ในการยืนยันธุรกรรมร่วมกัน Ripple สามารถใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ทั่วโลกโดยมีค่าธรรมเนียมต่ำมากและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Ripple ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาการโอนเงินจากธนาคาร A ไปธนาคาร B ที่อยู่ในประเทศอีกฟากหนึ่งของโลก โดยธนาคาร A และ ธนาคาร B ไม่สามารถโอนเงินให้กันโดยตรงได้เนื่องจากไม่ได้มีเครือข่ายทางการเงินโดยตรง แต่จำเป็นต้องใช้ที่สามารถเชื่อมต่อและส่งข้อมูลธุรกรรมถึงกันได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลานานในการตรวจสอบธุรกรรมและถ่ายโอนทรัพย์สิน ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมสูง แต่ด้วยการสร้าง Ripple Protocol ที่ช่วยให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ ค้นหาเส้นทางการโอนเงินที่สั้นที่สุดจากผู้ส่งและผู้รับ ทำให้ธนาคารต้นทางและปลายทางสามารถโอนสินทรัพย์ให้แก่กันได้อย่างรวดเร็วไม่ต่างจากการส่งอีเมลถึงกัน ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าปกติมาก

Ripple ทำงานบนแพลตฟอร์ม XRP เช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิตอลอย่าง Ethereum ปัจจุบันนี้มี XRP Token ที่ออกโดย Ripple กว่าหนึ่งแสนล้าน Token โดยมีความสะดวกในการใช้โอนเงินดิจิตอล และสินค้าต่าง ๆ โดย Ripple สามารถทำการโอนเงินได้ภายในเวลาเพียง 3.5 วินาทีเท่านั้นโดยประมาณ

ระบบของเหรียญ XRP

Private Blockchain เป็นระบบที่ค่อนข้างมีความเป็น Centralized และเป็น Private Blockchain เพราะไม่มีการเปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาขุดหรือร่วมกันเป็นผู้ยืนยันการทำธุรกรรมได้ ผู้ที่สามารถยืนยันธุรกรรมของระบบได้มีเพียงธนาคารหรือหน่วยงานจำนวนหนึ่งที่จำกัดไว้เท่านั้น และนั้นหมายความว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่มีอำนาจในการปิดบัญชีหรือผลิตเงินเพิ่มตามใจชอบได้ ในเดือนพฤษภาคมปี 2015 มีข่าวที่รายงานว่า Jed McCaleb ผู้ร่วมก่อตั้งของ Ripple ถูกอายัดบัญชีที่มีมูลค่า 96 ล้าน XRP ซึ่งทำให้เห็นว่าเครือข่ายของ XRP นั้นมีอำนาจที่จะสั่งอายัดบัญชีได้ และทำให้เกิดการฟ้องร้องตามมา แนวคิดการโอนเงินของ Ripple นั้นจะแตกต่างจากระบบของเงินดิจิทัลสกุลเงินอื่น ๆ โดยเมื่อเกิดการโอน Ripple จะมีเหรียญ  XRP จำนวนหนึ่งถูกจัดส่งไปในกระบวนการโอนเป็นค่าธรรมเนียม

ความน่าเชื่อถือของ Ripple

แพลตฟอร์ม XRP ของ Ripple ได้รับกรยอมรับว่าเป็นการเข้ารหัสลับสำหรับการโอนเงินออนไลน์ที่มีความปลอดภัย เมื่อเทียบกับธุรกรรมค้าปลีกสำหรับผู้ใช้ปลายทาง และที่สำคัญก็คือสามารถทำงานได้ดี และมีประสิทธิภาพสูง และ Ripple เองก็มีแผนที่จะสร้างความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารกว่าครึ่งหนึ่งในโลกซึ่งที่ผ่านมาก็มีการใช้ XRP เป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมทางการเงินเพราะถือว่ามีความปลอดภัยสูงและทำรายการได้รวดเร็ว การใช้งานผ่าน Ripple เพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน โดยในแต่ละสัปดาห์จะมีการทำธุรกรรมผ่าน Ripple กว่าหนึ่งพันล้านเหรียญ ดังนั้นจึงน่าจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนจำนวนมากเริ่มให้ความไว้วางใจและมองเห็นว่า Ripple มีความน่าเชื่อถือสูง

ข้อดีข้อเสียของ Ripple

ข้อดีของ Ripple

1.  ช่วยแก้ปัญหาและสร้างโอกาส Ripple แก้ปัญหาสำหรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเร่งการไหลเวียนของเงินทุนซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ Ripple สามารถทำงานให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กได้เช่นกัน หากมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายแพลตฟอร์ม Ripple จะช่วยให้ผู้ค้าและผู้ประกอบการรายเดียวหลายล้านคนสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจโลกได้

2.  Ripple ไม่ใช่แค่สกุลเงินดิจิทัลอื่น Ripple เป็นมากกว่าสกุลเงินดิจิทัลหรือเทคโนโลยี เป็น บริษัท ที่มีเราสมบัติครบถ้วน Ripple Labs Inc มีนายจ้างประจำมากกว่า 500 คนรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาดที่ส่งเสริมเทคโนโลยีให้กับธนาคารนักลงทุนผู้ใช้ใหม่และสาธารณะ

3. มีค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่ำมาก ต้นทุนในการทำธุรกรรมบนเครือข่าย Ripple คิดเป็นราว ๆ 0.00001 XRP ซึ่งหากแปลงเป็นเงินบาทแล้วก็ยังไม่ถึงหนึ่งบาทเต็มด้วยซ้ำ ซึ่งถือว่าเป็นต้นทุนที่ต่ำมาก ๆ จนคล้ายกับว่าไม่ได้มีการคิดค่าธรรมเนียมเสียด้วยซ้ำ

4. เป็นเครือข่ายโอนเงินที่รองรับสินทรัพย์หลากหลาย นั่นคือ Ripple Net ไม่เพียงแค่รองรับการทำธุรกรรมโอนเงินด้วยสกุลเงินเฟียตเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้โอนทรัพย์สินอื่น ๆ ที่ธนาคารทั่วไปไม่สามารถทำได้ด้วย เช่น สกุลเงินดิจิทัล หรือแม้แต่สินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ

5. มีความน่าเชื่อถือสูง-ถูกใช้โดยสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลก Ripple เป็นพันธมิตรกับธนาคารและสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลกกว่าร้อยบริษัท ทำให้ Ripple มีเครือข่ายทางการเงินกว้างขวาง ทั้งยังแสดงถึงความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในการใช้แพลตฟอร์มอีกด้วย

เช่น Santander (SANPRA), Bank of America (BAC) และ UBS (UBS) เป็นต้น

ข้อเสีย ของ Ripple

1. ยังคงประสบกับปัญหาการนำเอาไปใช้งานจริง เพราะคนส่วนใหญ่ยังยึดติดกับการลงทุนมากกว่า คือการเก็บเหรียญเอาไว้ขายเอากำไร มากกว่าจะนำเอาไปทำธุรกรรมจริง ๆ

2. การกระจายเหรียญยังคงไม่ครอบคลุม เพราะเหรียญส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในมือของ Ripple Labs ซึ่งเป็นทีมพัฒนา ทำให้พวกเขาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของเหรียญ

3. มีปริมาณเหรียญในระบบสูงมากตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งมีอยู่ถึง 100,000,000,000 XRP แม้เหรียญเหล่านี้จะไม่ได้ถูกนำออกมาใช้ทั้งหมดตั้งแต่ต้น แต่มีการค่อย ๆ ทยอยนำออกมา แต่จำนวนเหรียญที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนี้ก็เป็นแรงกดดันราคาซื้อขายในตลาด เนื่องจากทุกคนต่างทราบดีว่าหากเหรียญ XRP ขาดตลาดหรือมีราคาสูงขึ้น ก็ยังมีเหรียญอุปทานสามารถเติมมาได้เรื่อย ๆ อีกเป็นจำนวนมากที่พร้อมจะเติมเข้ามาในระบบเพื่อกดราคาให้ต่ำลงได้ 

4. หน่วยงานกำกับดูแลอย่าง SEC ยังมีท่าทีต่อต้าน XRP Ripple และยังมีคดีความที่เกิดขึ้นจากการฟ้องร้องของคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของอเมริกา (SEC) ที่มองว่า เมื่อบริษัทตัดสินใจสร้างเหรียญ Ripple ออกมาแล้วก็ควรจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์ แต่ Ripple ไม่ได้ทำตาม ซึ่งระหว่างที่คดียังไม่เป็นที่ยุติ บริษัทต่าง ๆ ก็มักไม่ต้องการเข้ามาเสี่ยงกับเรื่องนี้จึงระงับการร่วมมือหรือการใช้งาน XRP ออกไป

Ripple (XRP) แตกต่างจาก cryptocurrencies อื่นอย่างไร?

Ripple แตกต่างจาก Bitcoin (cryptocurrencies) เพราะไม่สามารถ สร้าง หรือ ขุด จากผู้ใช้งานหรือบุคคลธรรมดาทั่วไปได้ โดยจะถูกควบคุม node เก็บประวัติการทำธุรกรรมทั้งหมดโดยบริษัท และสถาบันการเงินทั่วไป หมายความว่าเหรียญดังกล่าวจะถูกออกมากลางอากาศเท่าไรก็ได้ อีกทั้งยังมีความเป็น centralized สูงอีกด้วย สาเหตุที่ XRP ถูกมองว่าเป็นเครือข่ายแบบ Centralized เนื่องจาก บริษัท Ripple ที่เป็นผู้สร้างเหรียญ ได้ถือเหรียญเองมากกว่า 80% ของจำนวนเหรียญทั้งหมด ซึ่งจะค่อย ๆ ทยอยปล่อยลงสู่ตลาด

ในขณะที่ Bitcoin ถูกพัฒนาขึ้นด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อขจัดตัวกลางในการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น การนำธนาคารออกไป เพื่อให้การทำธุรกรรมทางการเงินมีความเป็นส่วนตัว ปราศจากการแทรกแซงของตัวกลางในแบบที่มั่นใจได้ว่าธุรกรรมจะไม่ถูกระงับอย่างแน่นอน รวมทั้งมีความตั้งใจจะลดค่าธรรมเนียมธุรกรรมและระยะเวลาที่เกิดขึ้นจากตัวกลางออกไปด้วย ทำให้ Bitcoin จะกลายมาเป็นเหรียญที่ผู้คนใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างปลอดภัย

สำหรับ Ripple เครือข่ายของ Ripple net คือตัวกลางในการชำระราคาหรือถ่ายโอนสินทรัพย์ โดยมีจุดมุ่งหมายคือเข้ามาลดข้อจำกัดของการโอนย้ายสินทรัพย์ข้ามประเทศที่แต่เดิมมีค่าธรรมเนียมสูงและใช้เวลานานในการยืนยันธุรกรรม ดังนั้นเมื่อเกิดการโอนเงินผ่านเครือข่าย Ripple net สินทรัพย์ตั้งต้นสามารถเป็นได้ทั้งสกุลเงินเฟียต เหรียญดิจิทัล หรือแม้แต่ทองคำ และจะถูกเปลี่ยนเป็น Ripple ในระหว่างกระบวนการ เพื่อถูกเปลี่ยนกลับอีกครั้งเป็นสินทรัพย์ที่ต้องการเพื่อส่งไปถึงผู้รับ

Bitcoin ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำธุรกรรมในสกุลเงินของตนเองได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสถาบันการเงิน และเป็น Decentralized Blockchain อย่างชัดเจน ในขณะที่ XRP และ Ripple นั้นมีวิธีในการอายัดเงินหรือ Freeze ธุรกรรมที่น่าสงสัยที่ปลายทางได้ ในขณะที่ Bitcoin ทำไม่ได้ เนื่องจาก Ripple ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นแพล็ตฟอร์มการชำระและโอนเงินข้ามสกุลเงินที่อิงกับสถาบันการเงินตั้งแต่แรก

XRP ไม่มีการขุด Validator ในระบบจะไม่ได้รับรางวัลอย่างมหาศาลเหมือน Miner ใน Bitcoin ที่ปัจจุบันได้รับ 12.5 BTC ต่อบล็อค ในขณะที่ XRP มีการจำกัดการกระจายเหรียญและมีการฝากเหรียญส่วนใหญ่อยู่ใน Escrow ส่วน Ripple นั้นจะสามารถตรวจสอบข้อมูลของธุรกรรมในเครือข่ายได้ ในขณะที่ Bitcoin ตรวจสอบได้แค่การเคลื่อนไหวของเหรียญ

แล้วทำไมนักลงทุนต้องสนใจเหรียญ Ripple?

Ripple น่าสนใจสำหรับการลงทุนหรือไม่ อาจต้องพิจารณาโอกาสและความเสี่ยงของสินทรัพย์ รวมถึงความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละคนสามารถรับได้ ซึ่งสำหรับโอกาสและความเสี่ยงของ Ripple นั้นก็นับว่ามีความน่าสนใจสำหรับการลงทุนอยู่พอสมควร นั่นก็คือ

กระแสการพัฒนาของโลกในปัจจุบันมีความเป็นโลกาภิวัตน์เพิ่มมากขึ้น และทุกส่วนของโลกสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างรวดเร็วด้วยการสื่อสารไร้สาย ถึงอย่างนั้นการถ่ายโอนทรัพย์สินยังคงมีข้อจำกัดทั้งในแง่ของการตรวจสอบธุรกรรม เวลาที่ใช้ในการโอน รวมถึงต้นทุนค่าธรรมเนียมที่สูง และอาจสูงในระดับหลายสิบเปอร์เซนต์ของมูลค่าสินทรัพย์ที่ต้องการโอนได้เลย ซึ่ง Ripple เป็นเจ้าแรก ๆ ที่เข้ามาปิดจุดอ่อนในด้านนี้ และหากเกิดการขยายตัวของการใช้งานบล็อกเชนรวมถึงเหรียญคริปโตเพิ่มมากขึ้น Ripple จะเป็นเจ้าแรก ๆ ที่มีฐานลูกค้าในตลาดนี้ และสามารถขยายฐานผู้ใช้งานของตัวเองออกไปได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลผลักดันราคาได้ในระยะยาว

การซื้อเหรียญ XRP เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

การซื้อเหรียญ XRP เป็นการลงทุนที่ดีเนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก และยังมีราคาต่ำกว่า Bitcoin อยู่มาก ทำให้มีโอกาสในการลงทุนที่ดี เนื่องจากระบบการโอนสกุลเงินที่รวดเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำจึงมีหลายธนาคารทั่วโลกหันมาสนใจที่จะลงทุนใน Ripple กันมากยิ่งขึ้น พูดง่าย ๆ ว่า Ripple เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำพร้อมผลตอบแทนที่สูง มูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดมีความผันผวนสูงและสามารถลดลงได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับตอนเพิ่มขึ้น คำแนะนำที่ดีคืออย่าลงทุนมากกว่าที่เราสามารถจ่ายได้ และเราต้องมีเงินทุนมากพอสมควรถึงจะคุ้มค่ากับกำไร

อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาและสร้างโอกาส Ripple แก้ปัญหาสำหรับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังเพิ่มความเร็วในการไหลเวียนของเงินทุนซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ และ Ripple ยังสามารถทำงานให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กได้อีกด้วย หากมีการนำไปใช้อย่างแพร่หลายแพลตฟอร์ม Ripple จะช่วยให้ผู้ค้าและผู้ประกอบการรายเดียวหลายล้านคนสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจโลกได้อีกด้วย

การเทรดเหรียญ XRP เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

การเทรดเหรียญโดยไม่ต้องถือครองเหรียญ มีจุดเด่นตรงที่ไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนเยอะก็ได้ เนื่องจากเราสามารถใช้การเทรดสัญญาส่วนต่าง  CFD เป็นเครื่องมือในการทำกำไรที่ช่วยให้สะดวกและรวดเร็วกว่า เนื่องจากมีการใช้อัตราทดหรือเลเวอเรจเข้าช่วยในการทำกำไร

ราคาของ Ripple ในปี 2021 ยังไม่สูงมากนักในขณะนี้ แต่อาจค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ยังนับเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของสกุลเงินดิจิทัลที่ความสำเร็จของเหรียญมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลง XRP เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความเชื่อมั่นและมีสภาพคล่องของเหรียญสูงอีกด้วย การเทรดเหรียญ XRP ถือเป็นการลงทุนที่ดีและใช้เงินทุนน้อยกว่าการซื้อเหรียญมาถือไว้เพื่อเก็งกำไรแล้วจึงขายออกเลยทีเดียว

สรุป

XRP คือสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Ripple มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นระบบโอนเงินข้ามประเทศที่รวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ แต่ XRP แตกต่างจาก Bitcoin หรือ Ethereum เนื่องจากค่อนข้างเป็นระบบแบบรวมศูนย์ (Centralized) มากกว่าที่จะเป็นแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) และไม่สามารถขุดเหรียญได้เหมือน Bitcoin การที่เราจะซื้อเหรียญหรือจะเทรดเหรียญดี เราขอแนะนำว่าหากจะซื้อเหรียญควรมีเงินลงทุนเยอะหน่อย แต่หากจะเทรดเหรียญอาจไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนเยอะก็ได้ เนื่องจากเราสามารถใช้การเทรดสัญญาส่วนต่าง  CFD เป็นเครื่องมือในการทำกำไรที่ช่วยให้สะดวกและรวดเร็วกว่า

หากสนใจในการถือครอง ควรรีบลงทุนเพราะราคา ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น XRP ยังคงเป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสามารถเทรดได้ตามเว็บต่าง ๆ สามารถถือครองเหรียญเป็นหน่วยย่อยได้ ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด สภาพคล่องสูง ฝาก-ถอน เงินได้ตลอดเวลา XRP ใช้เวลาในการยืนยันธุรกรรมเพียง 3 – 5 วินาที สามารถประมวลผลได้กว่า 1,500 รายการต่อวินาที ซึ่งจะเห็นได้ว่าเครือข่ายของ Ripple สามารถรองรับธุรกรรมได้มากกว่าและเร็วกว่า ดังนั้นการลงทุนซื้อเหรียญมาเก็บไว้แล้วขายออก หรือเทรดโดยการใช้สัญญาส่วนต่าง CFD นั้น ผู้ลงทุนควรจะเลือกรูปแบบให้เหมาะสมกับสภาพคล่องและเงินทุนของตัวเองมากที่สุด

**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน