Swap คืออะไร? มือใหม่ต้องรู้ถ้าไม่อยากเสียเปรียบ

Swap คืออะไร? หนึ่งคำถามสำคัญที่มือใหม่ควรรู้หากกลัวเสียเปรียบ โดยเฉพาะมือใหม่ที่ต้องการเทรดวันต่อวันหรือสนใจศึกษาการทำกำไรจาก Swap ยิ่งต้องทราบ หากสนใจการเทรด Swap ทดแทนดอกเบี้ยธนาคารที่ให้ผลกำไรต่ำ ด้วยผลตอบแทนผ่าน Swap ที่สูงกว่าหลายเท่า สามารถศึกษาได้ที่นี่ รวมข้อมูลพื้นฐานสำคัญที่ควรรู้ไว้แล้ว
Table of Contents
Swap คืออะไร? ดูยังไง?
อธิบายง่าย ๆ Swap คือ เงินค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเมื่อเทรดข้ามคืน ตัวอย่างเช่น คุณเทรดวันนี้จนถึงพรุ่งนี้ มันจะเกิดค่าธรรมเนียมขึ้น ซึ่งที่มันมีค่าธรรมเนียมส่วนนี้ มันเกิดขึ้นจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของคู่สกุลเงินที่เราเทรดนั่นเอง เหมือนอย่างเงินบาท เวลาเราฝากเงินก็จะมีเงินบาทเป็นดอกเบี้ยเกิดขึ้น หรือถ้าคนอเมริกันฝากเงินดอลลาร์ ก็จะมีเงินดอลลาร์เป็นดอกเบี้ยเกิดขึ้น (แม้ว่าโดยทั่วไปอัตราดอกเบี้ยจะคิดเป็นร้อยละต่อปี แต่สำหรับมันสามารถคำนวณเป็นร้อยละต่อวันได้เช่นกัน) อย่างไรก็ตามดอกเบี้ยของเงินบาทและดอลลาร์จะมีอัตราดอกเบี้ยไม่เหมือนกัน เมื่อเป็นเช่นนี้จำนวนเงินที่เราเทรดไปก็จะมีดอกเบี้ยด้วย ซึ่งจะเกิดดอกเบี้ยทั้งสองคู่สกุลเงิน และทำให้เกิดส่วนต่างดอกเบี้ยเกิดขึ้น
ดังนั้นถ้าหากเราเอาเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่า ไปซื้อเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก็จะทำให้เราได้กำไร (ดูค่า Swap เป็นบวก เราได้กำไร)
อย่างไรก็ตามผลกำไร/ขาดทุนที่เกิดจากค่า Swap ถือว่ามีค่อนข้างน้อย อาจไม่ถือเป็นนัยสำคัญ แต่ถ้าหากว่านักเทรดต้องการเป็นเทรดเดอร์รายวันหรือมีอาชีพเป็นเทรดเดอร์ ต้องให้ความสนใจกับค่า Swap ในระดับหนึ่ง เพราะมันรวมดอกเบี้ยได้เหมือนเงินฝากรายปีด้วย (อาจจะได้ –5% ถึง 5% ต่อปี ในส่วนนี้ขึ้นกับการวางแผน) ดังนั้นหากต้องการเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพก็อาจต้องใส่ใจเรื่องค่า swap ด้วย เพราะจะทำให้เราได้กำไรเยอะเมื่อเทียบต่อปี
อย่างไรก็ตามค่า Swap จะมีความแตกต่างบ้างสำหรับแต่ละโบรกเกอร์ หากต้องการได้รับผลประโยชน์สูงสุด ควรพิจารณาแต่ละโบรกเกอร์ให้ชัดเจน แต่ถ้าหากคิดว่าค่า Swap ไม่ได้มีนัยสำคัญขนาดนั้นก็ไม่จำเป็นต้องนำมาประกอบการพิจารณาก็ได้ โดยเฉพาะเทรดเดอร์ที่เน้นเทรดเป็นรอบ ไม่ได้เทรดทุกวัน เพราะมันอาจไม่มีผลมากนัก แต่ถ้าเกิดเทรดเดอร์เทรดแทบทุกวัน ควรศึกษาเรื่อง Swap ไว้จึงจะดีกว่า นอกจากนี้ยิ่งมีทุนมาก ค่า Swap ยิ่งสูงมากเช่นกัน
สำหรับเวลาในการเริ่มนับวัน โดยทั่วไปจะเริ่มนับในเวลา 5 PM ของเมืองนิวยอร์ก เทียบกับเวลาประเทศไทยก็คือตอนตี 4 ซึ่งจะเปิดตั้งแต่วันจันทร์ เวลา 04:00 น. ถึง วันเสาร์ เวลา 04:00 น.
ข้อควรระวัง ค่า Swap ในวันพุธจะแตกต่างจากค่า Swap ในวันปกติ โดยจะคิดดอกเบี้ยทบรวมจากวันเสาร์และอาทิตย์เข้ามาด้วย จึงทำให้สูงกว่าปกติถึง 3 เท่า
วิธีคำนวณ Swap
วิธีคำนวณไม่นับว่ายาก สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
สูตร Swap คือ เงินเทรด x (อัตราดอกเบี้ยเงินที่ซื้อ – อัตราดอกเบี้ยเงินที่นำไปซื้อ)/365
ตัวอย่างเช่น สมมติอัตราดอกเบี้ยต่อปีของคู่สกุลเงินเป็นดังนี้ โดยเราเทรดด้วยเงินจำนวน 100,000 บาท
เงินที่นำไปซื้อ THB มีอัตราดอกเบี้ยต่อปี = 0.23154%
เงินที่ซื้อ USD มีอัตราดอกเบี้ยต่อปี = 0.53214%
แทนค่าตามสูตร จะได้ค่า
Swap = 100,000 x (0.53214% – 0.23154%) /365 = 100,000 x (0.3006%) /365
Swap = +0.82356 บาท
แต่ถ้าหากเราได้ค่า Swap เป็นค่าลบ หมายความว่าเราขาดทุนนั่นเอง (ต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์)
ซึ่งในส่วนนี้บางโบรกเกอร์จะคิดค่า Swap ที่ต่างจากความเป็นจริง โดยไม่ได้อิงจากอัตราดอกเบี้ยต่อปีอย่างเดียว จนส่งผลให้เราได้รับค่า Swap ลดลง ดังนั้นหากจะพิจารณาค่า Swap ควรพิจารณาผ่านโปรแกรม MT4 ซึ่งจะระบุค่า Swap ค่อนข้างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องคำนวณมือ และยังใช้งานได้ง่าย โดยสามารถเข้าใช้งานได้ตามขั้นตอนนี้
- ไปที่ MT4
- เข้าเมนู View
- เลือก Market Watch
- คลิกขวาที่คู่สกุลเงินประกอบด้วยค่า Swap
- เลือก Symbols
- คลิก Properties ซึ่งจะเห็นค่า Swap โดยมีออเดอร์ซื้อกับออเดอร์ขาย มีหน่วยเป็น pip
สังเกตว่าค่า Swap ในหนึ่งวันจะมีค่าน้อยมาก ต่อให้เป็นกำไรหรือขาดทุนก็จะยังน้อยมากอยู่ดีจนแทบไม่ส่งผลอะไร แต่ค่า Swap นี้ พิจารณาในมุมมองของคนที่เทรดเป็นรอบ เทรดไม่บ่อย ความคุ้มค่าของมันจึงต่ำ แต่ถ้าเป็นนักเทรดเดอร์มืออาชีพ เทรดรายวัน เราอาจต้องคูณค่านี้ 200-300 เข้าไป ผลที่ได้ก็จะอยู่ในช่วง 164-247 บาท ซึ่งในมุมมองของนักลงทุนก็อาจจะยังดูน้อยอยู่
แต่ถ้าเราเปลี่ยนสกุลเงินล่ะ สมมติว่า
สกุลเงิน X มีดอกเบี้ยต่อปี = 3.13541%
สกุลเงิน Y มีดอกเบี้ยต่อปี = 0.10035%
ในส่วนนี้เราจะเห็นส่วนต่างดอกเบี้ยต่อปี = 3.03506%
หากเป็นเทรดเดอร์เทรดรายวันมันก็แทบจะเกี่ยวข้องกับค่า Swap ทุกวัน ดังนั้นอาจคูณด้วยผลต่างดอกเบี้ยส่วนนี้กับเงินต้นได้เลย (อาจมีความต่างกันเล็กน้อย) ผลจากการเทรดก็จะได้กำไรบวกราว ๆ 3% หรือประมาณ 3,000 บาท แต่จำนวนเงินที่เทรดมีความผันผวน บางครั้งเราเทรดได้กำไรมากจากทุน 100,000 บาท อาจกลายเป็นทุน 200,000 บาท เราก็จะได้กำไรจากค่า Swap ต่อปีเกือบ 6,000 บาท หรือถ้าทุนหนาขึ้นมีทุนหลักล้าน ก็อาจมีค่า Swap +/- หลักหมื่น พูดง่าย ๆ มันก็เหมือนการคิดดอกเบี้ยเงินฝากนั่นแหละ เพียงแต่เข้ามาใช้ในรูปแบบหลายคู่สกุลเงิน
จะเห็นว่าจำนวนค่า Swap เริ่มไม่น้อยแล้ว ดังนั้นจึงขอแนะนำแนวทางแบบนี้ว่า ถ้าหากอยากเป็นเทรดเดอร์รายวัน ควรศึกษาค่า Swap ให้ดี เพราะมันสามารถทำกำไรได้สูง แต่ถ้าหากนาน ๆ ครั้ง เข้ามาเทรด อาจเทรดเดือนละครั้งหรือสองครั้ง ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาค่า Swap ก็ได้ เพราะค่อนข้างไม่มีนัยสำคัญ

คุณสมบัติของการเทรด Swap
ประโยชน์ของ Swap
- ใช้ประโยชน์จาก Swap ที่เป็นค่าบวก สร้างเป็นกำไรเหมือนการฝากเงินกับธนาคาร
- สามารถเลือกสกุลเงินที่มีผลต่างอัตราดอกเบี้ยสูงเพื่อทำกำไรสูงกว่าดอกเบี้ยปกติได้ ซึ่งสามารถทำกำไรได้มากกว่าการฝากเงินธรรมดา หรือกรณีที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศต่ำ (น้อยกว่า 0.5%-1% ต่อปี) ก็สามารถเลือกใช้การเทรดเน้นทำกำไรจาก Swap ได้
- ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจะเป็นดอกเบี้ยทบต้น หากเน้นเทรด Swap ก็จะทำกำไรได้ค่อนข้างสูง
- ความเสี่ยงต่ำ (ความเสี่ยงน้อยกว่าการเทรด แต่สูงกว่าการฝากเงินกับธนาคาร)
ข้อเสียของ Swap
- ผลกำไร/ขาดทุนน้อยจนไม่มีนัยสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่ไม่ได้เทรดทุกวัน
- ต้องเสียค่า Swap หากถือข้ามคืน (ในกรณีที่ค่า Swap เป็นค่าลบ)
- บางโบรกเกอร์จะคิดค่า Swap แตกต่างออกไป (ไม่คิดตามอัตราดอกเบี้ยจริง) ส่งผลให้เวลาจ่ายค่า Swap ให้เราอาจต่ำไป แต่พอเราต้องจ่ายค่า Swap อาจสูงไป
- ในวันพุธจะมีการคิดค่า Swap สูงกว่าปกติเป็น 3 เท่า (เนื่องจากทบจากวันเสาร์และอาทิตย์)
ประเภทของการเทรด Swap
โดยทั่วไปจะมีการเทรด Swap อยู่หลายแบบ ถ้าไม่อยากเสียหรือได้ค่า Swap ก็ต้องเทรดจบในรอบวัน แต่ถ้าหากว่ามีเหตุจำเป็นต้องถือยาว สนใจลงทุนที่จะเทรดข้ามคืน หรือเทรด Swap ในรูปแบบต่าง ๆ ล่ะ? มันก็จะมีรูปแบบต่างกันไปอยู่ 3 ประเภท คือ
- การเทรด Swap แบบวันเดียว
การเทรดแบบนี้ก็ค่อนข้างง่าย ความหมายตรงตัวก็คือถือสถานะข้ามคืนหรือการครบรอบจะมีระยะเวลาไม่นานมาก โดยทั่วไปจะไม่เกินหนึ่งวัน ซึ่งสามารถคำนวณค่า Swap ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนได้ตามสูตร Swap ในข้อที่ 2 ได้เลย
- การเทรด Swap แบบหลายวัน (ถือไว้เป็นระยะเวลานาน)
การเทรดแบบนี้จะต่างจากเดิมเล็กน้อย เพราะบางคนอาจยังไม่ได้ผลลัพธ์จากการเทรดตามที่ต้องการ ดังนั้นจึงรอดูสถานการณ์ว่าอาจได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในวันถัดไป หรือสามารถทำกำไรได้มากกว่านี้จึงเลือกถือรอหลายวัน ส่งผลให้เกิดการคิดค่า Swap ต่อเนื่องกันหลายวัน เงินต้นก็อาจจะได้กำไรต่อเนื่อง หรืออาจขาดทุนต่อเนื่องได้ (เป็นการทบต้น) อย่างไรก็ตามหากไม่ได้ถือนานเกินไป ค่า Swap มักจะไม่สูง ดังนั้นจึงไม่ถือว่ามีนัยสำคัญนัก อย่างไรก็ตามหากมีเงินต้นที่สูงมาก ๆ ควรศึกษาค่า Swap ให้ดี และควรเทรดในกรณีที่ค่า Swap เป็นบวกจึงจะได้กำไรสูง
- การเทรด Swap แบบล่วงหน้า
ในส่วนการทำสัญญาล่วงหน้าจะแตกต่างจากประเภทที่ 2 ค่อนข้างมาก
เพราะจะมีอัตราผลกำไรที่ค่อนข้างชัดเจน สามารถคำนวณได้เลยโดยคูณจำนวนวันตามที่ทำสัญญา หากจะเปรียบเทียบง่าย ๆ ก็เหมือนการฝากเงินระยะยาวกับธนาคาร ฝากเงินราย 3 เดือน ราย 6 เดือน รายปี หรือรายสามปี เป็นต้น ซึ่งต่างจากประเภทที่สองที่ไม่มีการทำสัญญา จึงอาจมีความผันผวนเกิดขึ้นได้ อัตราดอกเบี้ยอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
บทบาทของการเทรด Swap
หากเน้นการเทรด Swap มันจะเป็นรูปแบบการทำกำไรผ่านส่วนต่างดอกเบี้ย ดังนั้นอาจพูดได้ว่ามันเป็นอีกระดับหนึ่งของการกินดอกเบี้ย แต่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรายปี ความเสี่ยงจึงเพิ่มขึ้น แต่ต่ำกว่าความเสี่ยงจากการเทรด Forex ทว่าทำกำไรสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคาร ซึ่งบทบาทของมันจะปรากฏเด่นชัดเมื่อเราฝากเงินกับธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ยต่ำมาก หรือบางธนาคารอาจมีปรากฏการณ์ดอกเบี้ยเป็น 0 หรือดอกเบี้ยติดลบ ในส่วนนี้การเทรดแบบ Swap จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ต้องการฝากเงินกินดอกเบี้ย แต่เป็นรูปแบบขั้นสูงกว่าแบบเดิม มีตัวเลือกให้ทำกำไรค่อนข้างหลากหลาย
ความเสี่ยงของ Swap
ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แม้แต่การฝากเงินกับธนาคารในประเทศก็ยังมีความเสี่ยง และถ้าหากธนาคารล้มละลายก็มีกฎหมายคุ้มครองคืนเงินให้ไม่เกินจำนวนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง สำหรับความเสี่ยงของ Swap ก็มีเช่นกัน แต่โดยทั่วไปหากไม่เกิดสถานการณ์พิเศษ ความเสี่ยงจะถือว่าค่อนข้างต่ำ แต่ควรระวังให้ลงทุนกับสกุลเงินที่มีความน่าเชื่อถือ หากไม่เกิดวิกฤติอย่างฟองสบู่แตก ก็ไม่มีผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรแน่นอน นอกจากนี้การเทรดโดยไม่สนใจค่า Swap เทรด โดยค่า Swap ติดลบก็อาจเป็นความเสี่ยงอีกอย่าง เพราะถ้าหากเราเทรดไม่ได้กำไร เราก็จะเสียค่า Swap ไปฟรี ๆ รวมถึงการไม่ศึกษาโบรกเกอร์ที่หลากหลาย เราอาจเสียค่า Swap มากกว่าปกติด้วย
ตัวอย่างการใช้ประโยชน์ Swap
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือ เปลี่ยนการฝากเงินกับธนาคาร แล้วมากินดอกเบี้ยในรูปแบบของ Swap ซึ่งจะทำให้เรามีตัวเลือกในการทำกำไรจากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น หากธนาคารในประเทศให้ดอกเบี้ยแค่ 1% ต่อปี เราอาจรู้สึกว่ามันได้น้อยเกินไป จึงสนใจลองเทรดเพื่อเอาเฉพาะค่า Swap จากสกุลเงินอื่น ซึ่งอาจได้ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย 3-5% ต่อปี (ขึ้นกับการวางแผน) ในส่วนนี้เราจะทำกำไรได้มาก และยังมีความเสี่ยงต่ำอีกด้วย
Swap กับการเทรด Forex
ค่า Swap สำหรับการเทรด Forex จะมองว่าน้อยก็น้อย จะมองว่ามากก็มาก เพราะแต่ละคนมีแนวทางการเทรด Forex ที่แตกต่างกันออกไป บางคนที่เน้นความเสี่ยงสูง ผลกำไรสูงก็อาจมองว่าค่า Swap ไม่ได้สำคัญมากนัก แต่ถ้าเป็นเทรดเดอร์ที่เน้นความปลอดภัย เน้นความเสี่ยงต่ำ เน้นความชัวร์ ค่า Swap ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง ซึ่งมีการคำนวณค่า Swap ที่ค่อนข้างชัดเจนเหมือนกับการฝากเงินกับดอกเบี้ยธนาคาร ดังนั้นจึงสามารถพิจารณาได้ไม่ยาก อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยอาจมีการผันผวนสูงในบางช่วง จึงควรระวัง
หากนักลงทุนต้องการเรียนรู้การเทรดแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร มีเงินทุนไม่เพียงพอหรือไม่คุ้นเคยกับระบบ ไม่ต้องเป็นกังวลใจไปค่ะ นักลงทุนสามารถลองใช้บัญชีทดลองของ Mitrade เพื่อฝึกฝนการเทรดเงินเสมือนจริงฟรี $50,000 สามารถสมัครใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่านทางหน้าเว็ปไซต์ หรือแอพพลิเคชั่นบนมือถือ เพื่อทดลองเทรดและทำคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มของ Mitrade โดยที่ไม่มีความเสี่ยง
รับฟรีทันที! เงินเสมือนจริง $50,000
ทำไมต้องเทรดกับ MiTrade?
– Mitrade มีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจาก MiTrade ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานด้านการเงินของเกาะเคย์แมน (CIMA) ด้วยใบอนุญาต SIB เลขที่ 1612446 ควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามกฏระเบียบที่เข้มงวดและให้บริการด้วยความโปร่งใส
– เจ้าหน้าที่คนไทยคอยให้บริการ 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ
– เงินฝากขั้นต่ำ $50 ดอลล่าร์
– ขนาดซื้อขายขั้นต่ำ 0.01 ล็อต
– ค่าคอมมิชชั่น 0 และสเปรตต่ำถึง 0.1 pip
– มีแพลตฟอร์มรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้งาน
– สำหรับโบรกเกอร์ MiTrade สามารถเช็กเรท Swap รวมถึงข้อมูลอื่นๆ
บัญชีเทรดทดลองมีฟังก์ชันมากมาย เหมือนเราได้เทรดบัญชีเทรดจริงเลย เช่น เมนูเทรด ข้อมูล และระบบการดำเนินการต่าง ๆ นอกจากนี้บัญชีเทรดทดลองยังมีเงินจำนวน USD50,000 โดยไม่จำเป็นต้องฝากเงินเข้าบัญชีเทรดทดลอง เพื่อให้นักลงทุนได้ทำการทดลองเทรดก่อนจะเริ่มใช้งานบัญชีเทรดจริงนั่นเอง
สรุป
Swap คือส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยคู่สกุลเงินที่เทรด ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง ไม่ต่างจากการฝากเงินกินดอกเบี้ยจากธนาคาร อย่างไรก็ตามค่า Swap จะทำกำไรได้สูงกว่าการฝากเงินเพื่อเอาดอกเบี้ยปกติ ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มผลกำไรได้อย่างมั่นคง เหมาะสำหรับมือใหม่หรือนักลงทุนที่ไม่กล้าเสี่ยงเยอะ ๆ แต่มีแนวทางที่มั่นคง หวังให้เงินทุนเติบโตผ่านดอกเบี้ย ทว่าดีกว่าการฝากเงินกับธนาคาร และมีตัวเลือกที่ค่อนข้างหลากหลาย หากอยากทำกำไรสูงขึ้นก็สามารถเลือกแผนการที่เสี่ยงมากขึ้นก็ได้
**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน
ใส่ความเห็น