ซื้อ ทอง ที่ไหน ดี 10 อันดับห้างทองในไทย

เราต่างเคยได้ยินสำนวน สุภาษิตเกี่ยวกับทองคำ มากมายกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นสำนวน ทองแท้ไม่แพ้ไฟ ผ้าขี้ริ้วห่อทอง กิ่งทองใบหยก ทองแผ่นเดียวกัน เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน เนื่องจากทองคำเป็นโลหะแข็งตามธรรมชาติที่นิยมนำมาทำเครื่องประดับแต่ยุคโบราณ และยังนำทองคำมาใช้เป็นชุดนักบินอวกาศและแคปซูล ใช้ในการผลิตฟันปลอม ใช้เป็นวัสดุที่ทำหน้าที่สัมผัสในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น เครื่องคิดเลข โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากทองคำมีค่าการนำไฟฟ้าสูง

ทองคำเป็นโลหะมีค่าชนิดเดียวที่มีคุณสมบัติพิเศษ 4 ประการ คือ

1. มีความงดงามมันวาว (Luster) สีสันที่สวยงามตามธรรมชาติผสานกับความมันวาวก่อให้เกิดความงามอันเป็นอมตะ ทองคำสามารถเปลี่ยนเฉดสีทองโดยการนำทองคำไปผสมกับโลหะมีค่าอื่นๆ ช่วยเพิ่มความงดงามให้แก่ทองคำได้อีกทางหนึ่ง

2. มีความคงทนต่อการกัดกร่อน (Durable) ทองคำไม่ขึ้นสนิม ไม่หมอง และไม่ผุกร่อน แม้ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรก็ตาม

3. มีความหายาก (Rarity) ทองคำเป็นแร่ที่หายาก กว่าจะได้ทองคำมาหนึ่งออนซ์  (31.167 กรัม) ต้องถลุงก้อนแร่ที่มีทองคำอยู่เป็นจำนวนหลายตัน และต้องขุดเหมืองลึกลงไปหลายสิบเมตร จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูง เป็นสาเหตุให้ทองคำมีราคาแพงตามต้นทุนในการผลิต

4. มีการนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ได้อย่างไม่สิ้นสุด (Reusable) ทองคำเหมาะสมที่สุดต่อการนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เพราะมีความเหนียวและอ่อนนิ่ม สามารถนำมาทำขึ้นรูปได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยการทำให้บริสุทธิ์ (Purified) ด้วยการหลอมได้อีกนับครั้งไม่ถ้วน

ซื้อทองร้านไหนดี: 10 อันดับห้างทองชื่อดังในไทย

1. ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง Hua Seng Heng

ห้างทองชื่อดังในเยาวราชที่เปิดบริการมาอย่างยาวนานกว่า 70 ปี มีชื่อเรียกเป็นฉายาที่ลูกค้ารู้จักกันดีคือห้างทองตู้แดง โดยความหมายของคำว่า ฮั่วเซ่งเฮง แปลว่าความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทางร้านเน้นขายปลีกทองรูปพรรณเป็นหลัก เน้นคุณภาพของทองเป็นสำคัญ โดยราคาของร้านนี้จะอ้างอิงตามสมาคมค้าทองของประเทศไทยและราคาทองสากล ส่งผลให้ผู้ที่ซื้อทองเพื่อการลงทุนสามารถทำการซื้อขายได้ตลอด ปัจจุบันมีสาขามากมายในประเทศไทยและมีบริษัทย่อยถึง 6 บริษัท

2. ห้างทองเฮงเซ่งเฮง Heng Seng Heng

ร้านห้างทองเยาวราชเฮงเซ่งเฮง เปิดมานานกว่า 20 ปีและรุ่นลูกสาวก็มาเปิดสาขาอยู่ที่บางกะปิในภายหลัง พร้อมจำหน่ายทองคำทางช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Facebook Instragram Shopee Lazada รวมถึงการไลฟ์สดด้วย  นับป็นอีกหนึ่งห้างทองที่พัฒนาตามโลกโซเชียลในยุคปัจจุบันได้อย่างเก่งกาจ เราสามารถซื้อออนไลน์แล้วรอรับทองคำที่บ้านได้อย่างสบาย

3. ห้างทองเยาวราชกรุงเทพYaowarat Krungthep

เป็นอีกหนึ่งห้างทองที่เก่าแก่และเปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2512 และเป็นห้างทองร้านแรกที่ทำกิจการขายทองรูปพรรณ มี 251 สาขาในปัจจุบัน โดยปัจจุบันมีสินค้าทองรูปพรรณและทองคำแท่งมากมายในร้าน พร้อมด้วยพนักงานที่เชี่ยวชาญในด้านทองคำแท่งและทองรูปพรรณและสามารถให้คำแนะนำลูกค้าได้อย่างมืออาชีพ สินค้ามีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอมือ สร้อยคอ แหวน ต่างหู และกรอบพระ

4. ห้างทองออโรร่า Aurora

ร้านค้าเครื่องประดับจากทองรูปพรรณและเครื่องประดับที่ทำจากเพรชและพลอยที่มีให้บริการมากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ มีบริการจัดส่งให้ลูกค้าถึงบ้านอย่างปลอดภัย โดยงานทุกชิ้นของออโรร่ามีใบรับประกันที่พร้อมจะดูแลสินค้าที่ลูกค้าซื้อไปตลอดอายุการใช้งาน พร้อมด้วยประกันหลังการขาย นอกจากนั้นผู้ที่ซื้อทองไว้สำหรับขายยังเบาใจเพราะเค้ามีรับประกันราคาคืนตามราคาทองอีกด้วย

5. ห้างทองจินฮั้วเฮง Chin Hua Heng

ห้างทองจินฮั้วเฮงมีทั้งหมด 3 สาขา เปิดบริการลูกค้ามาอย่างยาวนานบนถนนเยาวราชและมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของเครื่องประดับทองคำเป็นอย่างมาก อยู่ภายใต้การบริหารงานของคุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภัคดี โดยห้างทองจินฮั้วเฮงเข้าใจว่าการซื้อทองคำรูปพรรณนั้นไม่ใช่เป็นเพียงแค่เครื่องประดับหรือทางหนึ่งในการลงทุน แต่เป็นเหมือนสิ่งที่สะท้อนศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงประเพณีอีกด้วย โดยห้างทองจินฮั้วเฮงมีเทคนิคการเลเซอร์ทองที่จะทำให้สีทองติดทนนาน

6. ห้างทองทองใบ Thongbai

ห้างทองที่มีประสบการณ์ในการทำการค้าทองมาอย่างเนิ่นนานบนถนนเยาวราช และมีลูกค้าประจำและขาจรมากมายที่ให้ความไว้วางใจในเรื่องของคุณภาพ ทางร้านมีมาตรฐานผลิตทองคำ 96.5% พร้อมด้วยพนักงานที่มีใจบริการและความเชี่ยวชาญในด้านทองคำ พร้อมที่จะให้คำแนะนำกับลูกค้าอย่างซื่อสัตย์ ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีความพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าทั่วกรุงเทพ นอกจากนั้นบางทีร้านยังมีการร่วมโปรโมชั่นผ่อนกับบัตรเครดิตที่ทำให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์มากมายอีกด้วย

7. ห้างทองตั้งโต๊ะกัง Tang Toh Kang

ห้างทอง Tang Toh Kang ห้างทองตั้งโต๊ะกัง เยาวราช เป็นร้านค้าทองคำที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ให้บริการซื้อขายทองคำมาแล้วกว่า 160 ปีนับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ตัวร้านสร้างโดยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลสูงถึง 7 ชั้น และเปิดชั้น 2 ไว้สำหรับเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเครื่องทองโบราณ จึงมั่นใจได้ว่าทางร้านมีความเชี่ยวชาญเรื่องทองคำเป็นอย่างดี 

ปัจจุบันห้างทอง Tang Toh Kang ห้างทองตั้งโต๊ะกัง เยาวราชมีสาขารวมมากกว่า 40 สาขา ให้บริการซื้อขายทองคำรูปพรรณ และทองคำแท่งเป็นหลัก และให้บริการซื้อขายทองคำด้วยราคาอ้างอิงราคาจากสมาคมค้าทองคำแห่งประเทศไทยที่เป็นมาตรฐาน จึงเหมาะทั้งสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อขายทองคำแท่งเพื่อการลงทุน และทองรูปพรรณสำหรับเป็นเครื่องประดับโดยเฉพาะ

8. ห้างทองเลี่ยงเซ่งเฮง Liang Seng Heng

ห้างทองที่เปิดทำการมามากกว่า 60 ปี มีประวัติที่ยาวนานมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 โดยเป็นร้านที่จำหน่ายทองรูปพรรณปลีกเป็นแห่งแรกในสยาม ดังนั้นทองทุกชิ้นจึงผ่านฝีมือช่างที่ชำนาญการในเรื่องของการทำทองเป็นอย่างมาก งานที่ได้จึงทำจากมือและมีความปราณีตและสวยงาม มีคุณค่า พร้อมที่จะดูแลลูกค้าด้วยพนักงานที่มีความชำนาญและพร้อมให้คำแนะนำลูกค้าด้วยความซื่อสัตย์ โดยปัจจุบันห้างทองเลี่ยงเซ่งเฮงมีทั้งหมดหลายสาขาในกรุงเทพ

9. ห้างทองโซวเซ่งเฮง SO SENG HENG

ห้างทองที่มีประวัติยาวนาน โดยเปิดบริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 โดยสาขาแรกเปิดที่ถนนเยาวราช ปัจจุบันจำหน่ายทองรูปพรรณหลายประเภท และมีหลายลวดลายให้ลูกค้าได้เลือกตามที่ต้องการ ทองคำแท่งบริสุทธิ์ 99.99% ทองก้อน 96.5% ทุกขนาดน้ำหนัก รวมถึงสินค้าทองสั่งทำพิเศษอีกมากมายหลายรายการ ทางร้านยังเป็นสมาชิกบุกเบิกของ สมาคมค้าทองคำ (Gold Traders Association)

10. ห้างทอง เอ เอ เยาวราช AA Gold Smith

ห้านทองที่จำหน่ายทองรูปพรรณและทองคำแท่งที่ได้คุณภาพจากเยาวราช รวมทั้งบริการรับซื้อทอง และรับขายฝากทอง จำนำทอง โดยในปัจจุบันมีสาขาให้บริการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวะ ที่พร้อมให้การดูแลลูกค้าทั้งหมด 9 สาขา โดยทางร้านยึดมั่นในความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและพร้อมที่จะให้คำแนะนำและดูแลลูกค้าดั่งคนในครอบครัว เพื่อให้ลูกค้า ทุกท่านรู้สึกเป็นกันเองเมื่อได้มาใช้บริการพร้อมทั้งมีโปรโมชั่นสุดคุ้มมากมายเสนอกับลูกค้าอยู่ตลอด

where to buy gold -2

จะซื้อทองยังไง?

1. เลือกห้างทองที่น่าเชื่อถือ มีชื่อเสียงยาวนานหรือเป็นแฟรนไชส์ขนาดใหญ่ มีใบรับประกันจากห้างทอง เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการันตีว่าทองคำที่ซื้อจากทางร้านนั้นเป็นของแท้ไม่หลอกลวง นอกจากนั้นใบรับประกันที่ได้จากห้างทองคำยังมีประโยชน์ในกรณีที่ต้องการขายทองคำคืนให้กับร้านที่ซื้อมา เพราะจะช่วยให้สามารถระบุได้ว่าทองคำซื้อมาจากร้านดังกล่าวจริง

2. ค่ากำเหน็จต้องมีราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงจนเกินไป โดยปกตินั้นค่ากำเหน็จนั้นจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักและลวดลาย ถ้าลายยิ่งซับซ้อน ค่ากำเหน็จก็จะยิ่งสูงมากขึ้น เราควรจะสอบถามค่ากำเหน็จจากพนักงานขายและเปรียบเทียบกับร้านอื่น ๆ อย่างน้อย 2-3 แห่งเพื่อให้มั่นใจก่อนซื้อว่าค่ากำเหน็จจะไม่แพงมากจนเกินไป

3. ตรวจสอบเทรนด์ราคาทองคำในตลาดโลก และราคาทองคำตามประกาศของสมาคมค้าทองก่อนซื้อเสมอ หมั่นตรวจสอบราคาทองคำอย่างต่อเนื่องก่อน เพื่อจับจังหวะตลาดและทิศทางราคาทองคำโลกก่อนว่ามีแนวโน้มราคาขึ้นหรือตกลง พยายามซื้อทองคำในช่วงที่ราคาต่ำที่สุด เพื่อเก็บไว้เก็งกำไรและขายในช่วงที่ราคาสูง และตรวจสอบประกาศราคาทองคำของสมาคมค้าทองเพื่อเปรียบเทียบราคาด้วย

4. ตรวจสอบทองคำที่จะซื้อให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนชำระเงิน ทั้งคุณภาพ รูปร่าง ลักษณะ สีสัน ลวดลาย ตำหนิ จุดที่ง่ายต่อการแตกหัก ตะขอเกี่ยว และข้อต่อต่าง ๆ เพราะหากซื้อไปแล้วพบตำหนิในภาพหลัง อาจจะขอเปลี่ยนคืนไม่ได้สำหรับห้างทองบางแห่ง เพราะฉะนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของผู้ซื้อด้วยเช่นกันในการตรวจสอบทองคำที่ตนเองต้องการว่าอยู่สภาพที่สมบูรณ์แบบหรือไม่ก่อนชำระเงิน

เราเหมาะกับวิธีการลงทุนในทองคำแบบไหน

การซื้อทองเพื่อการลงทุนมี 4 แบบ ดังนี้

1. การซื้อทองคำแท่ง

การซื้อทองคำแท่งเป็นวิธีลงทุนที่ได้รับความนิยมมายาวนาน เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการซื้อทองเพื่อลงทุนในระยะยาว เพื่อการลงทุนหรือเป็นตัวรักษาความมั่งคั่งมักมองว่าการถือเงินสดนั้นมีมูลค่าลดลงตามเวลาอันเนื่องมาจากค่าเงินเฟ้อ ขณะที่การถือทองคำในระยะยาวนั้นไม่มีการเสื่อมค่า เนื่องจากให้ความมั่นใจได้ว่าเราจะได้เป็นเจ้าของทองคำนั้นจริง ๆ โดยที่ทั้งราคาซื้อและราคาขายจะใกล้เคียงกับราคาตลาดที่สุด ทำให้ได้รับผลกำไรจากการซื้อขายแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ก็ต้องระวังการซื้อทองปลอมมาครอบครองโดยไม่รู้ตัว นักลงทุนต้องรู้จักวิธีตรวจสอบทองคำปลอมและทองคำจริง แยกแยะให้ดี และยังจำเป็นต้องมีที่เก็บที่ปลอดภัยอีกด้วย

2. การซื้อกองทุนรวมทองคำ 

สำหรับนักลงทุนที่มองเทรนด์ในตลาดยังไม่ค่อยเก่งนัก หรือไม่มีเวลาจัดการธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์เอง แต่เพียงแค่โอนเงินไปยังบริษัทจัดการหลักทรัพย์และส่งคำสั่งซื้อขายก็สามารถลงทุนในสินทรัพย์นั้น ๆ ได้แล้ว โดยมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยดูแลเงินทุนให้ ส่วนใหญ่มักจะมีขั้นต่ำในการซื้อขายกองทุนรวมทองคำเพียง 5,000 บาท ทั้งนี้การซื้อกองทุนรวมไม่ได้ทำให้นักลงทุนเป็นเจ้าของหรือได้ครอบครองทองคำจริง ๆ แต่จะมีบริษัทจัดการหลักทรัพย์เข้ามาดูแลและเก็บค่าดำเนินงานเป็นค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน ทำให้การลงทุนประเภทนี้ค่อนข้างเหมาะกับการลงทุนระยะยาวและไม่ต้องหาวิธีจัดเก็บทองคำไว้ด้วยตัวเอง

3. การลงทุนใน Gold Futures 

เป็นการซื้อทองเพื่อการเก็งกำไรในระยะสั้น เป็นสัญญาอนุพันธ์ประเภทฟิวเจอร์สในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนที่สนใจเทรด Gold Futures จึงสามารถเข้าถึงการซื้อขายได้ด้วยการเปิดบัญชี TFEX กับบริษัทหลักทรัพย์ต่าง ๆ และสามารถเริ่มซื้อขายสัญญา Gold Future ที่ขนาดมาตรฐาน 5 บาท หรือ 10 บาท ได้ด้วยอัตราทด 1:10 โดยเรียกหลักประกัน 10% ของมูลค่าสัญญา 

นักลงทุนสามารถซื้อขายสัญญาและทำกำไรบนราคาทองคำได้แบบเรียลไทม์ตลอดช่วงเวลาเปิดซื้อขาย และสามารถทำกำไรได้ทั้งทิศทางราคาขาขึ้นและขาลง แต่การเปิดบัญชีซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สยังคงมีข้อจำกัดที่มีความเข้มงวดในการเปิดบัญชีค่อนข้างสูง การซื้อขายจำเป็นต้องวางเงินขั้นต่ำสำหรับหนึ่งสัญญาเป็นหลักหมื่นบาทขึ้นไป จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีเงินลงทุนพอสมควร เปิดตลาดช่วงเช้า (9.45 – 12.30 น.) การเปิดตลาดช่วงบ่าย (14.15 – 16.55 น.) และการเปิดตลาดช่วงค่ำ (18:50 – 03:00 น. ของวันถัดไป) และสัญญาการซื้อขายจะมีวันหมดอายุไม่เหมือนกับการลงทุนใน CFD

4. การลงทุนในสัญญาซื้อขายส่วนต่างทองคำ Gold CFD (Contract for Different)

เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้จักการลงทุนในสัญญาซื้อขายส่วนต่างทองคำ Gold CFD (Contract for Different) กันบ้างอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นที่ยอดฮิตเลยแหละ สำหรับการซื้อทองเพื่อการเก็งกำไร จะเป็นการอาศัยส่วนต่างความผันผวนของราคาเพื่อสร้างกำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขายโดยใช้วิธีการซื้อขายในระยะสั้น ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของทองคำจริง ๆ ก็สามารถทำกำไรจากทองคำได้โดยการที่คุณใช้เงินทุนไม่มาก Gold CFD จึงเป็นตัวเลือกที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือประกันความเสี่ยงอยู่บ่อย ๆ เพราะไม่ว่าราคาทองคำจะขึ้นหรือลงก็มีโอกาสทำกำไรได้ โดยไม่มีวันหมดอายุของสัญญาอีกด้วย

หากคิดว่า ราคาทองคำจะขึ้น เปิดคำสั่งซื้อ (Long) เพื่อโอกาสทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำ

หากคิดว่า ราคาทองคำจะลง เปิดคำสั่งขาย (Short) เพื่อโอกาสทำกำไรจากการลดลงของราคาทองคำ

เรามาดูในส่วนของการซื้อขายกันบ้าง จะเป็นรูปแบบซื้อขายกันเองโดยตรงเลยนะ (OTC)  ด้วยการที่คุณเปิดบัญชีโบรกเกอร์ต่างประเทศ โดยการลงทุนเท่าไหร่ก็ได้ไม่มีขั้นต่ำ และอีกอย่างนะขั้นตอนในการเปิดบัญชีสะดวก ใช้เอกสารน้อย กินเวลาไม่นาน รอการอนุมัติไม่เกิน 10 นาที ก็สามารถเทรด Gold CFD ได้แล้ว

ยังสงสัยอยู่ใช่ไหมว่าทำไมคุณถึงต้องลงทุนซื้อขายส่วนต่างทองคำ Gold CFD ล่ะ ก็เพราะว่าในปัจจุบันมีการซื้อขายทองคำผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว ซึ่งมันจะทำให้คุณเองประหยัดเวลาเป็นอย่างมากในการเดินทางไปยังร้านทอง แถมยังซื้อ-ขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใน 5 วันทำการของสัปดาห์ เรียกได้ว่าเทรดได้ทุกที่ทุกเวลาจริง ๆ สะดวก ปลอดภัยผ่าน Smartphone หรือบน Website ก็สามารถเทรด Gold CFD ได้แล้ว สบายเลยต่อไปนี้ก็ไม่ต้องเดินทางไปร้านทองแล้ว เทรดผ่านโปรแกรมต่าง ๆ ในช่องทางออนไลน์ก็เป็นพอ

Gold CFD ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก สาเหตุมาจากความได้เปรียบหลากหลายด้านที่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้มีให้กับนักลงทุน เช่น Gold CFD มีอัตราทดที่สูง (Leverage) เช่น

  • 1:100 หรือ 1:200 ใช้หลักประกันน้อยลง เช่น 0.5% หรือ 1% ซึ่งช่วยขยายความสามารถในการทำกำไรได้ โดยแลกกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น อีกทั้งยังมีขนาดซื้อขายยืดหยุ่น
  • ขนาดการซื้อขายขั้นต่ำ คือ 0.01 Lot จะช่วยให้คุณสามารถเริ่มการลงทุนในทองคำได้ด้วยเงินทุนเริ่มต้นในหลักร้อยบาทเท่านั้น ทำให้คุณนั้นไม่ต้องลังเลในการที่จะเริ่มลงทุนเลย

ตัวอย่าง เช่น วางเงินลงทุน 3,000 แต่ว่าจะลงทุนแต่ละครั้งเพียง 1,000 หรือ ลงทั้งหมดก็ได้ ลงทุน 1 Lot = 1,000 แต่มีมูลค่าจริงในตลาด 100,000 หมายความว่า 1:100 เมื่อมีกำไรเพียง 1 จะคูณด้วย 100 ทันที 

เมื่อพิจารณาถึงความยืดหยุ่นในการเปิดบัญชี ช่วงเวลาซื้อขาย ระยะเวลาการถือสัญญาและขนาดของสัญญาแล้ว Gold CFD มีเกณฑ์การเปิดบัญชียุ่งยากน้อยกว่าและมีเงื่อนไขการเทรดที่ยืดหยุ่นกว่า Gold Futures มาก แต่ความเสี่ยงของ Gold CFD จะสูงกว่า Gold Futures เนื่องจากสามารถใช้อัตารทดได้ในระดับที่สูงกว่า

บทความนี้ไม่ใช่บทความชี้นำเป็นเพียงการนำเสนอมุมมองของผู้เขียนต่อการลงทุนเท่านั้น การบริหารความเสี่ยงมักจะสำคัญกว่าการเลือกสินทรัพย์ที่สร้างผลตอบแทนดีสุด และสิ่งที่จะมาชดเชยความเสี่ยงในการลงทุนก็คือ โอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

การลงทุนทองคำมีความเสี่ยงเหมือนกับการลงทุนในด้านอื่น ๆ ซึ่งผู้ลงทุนจำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบ ตัดสินใจเลือกรูปแบบการลงทุนทองคำที่เหมาะกับตัวเอง เรียกได้ว่าการเทรด Gold CFD เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดสำหรับผลกำไรระยะสั้น แต่อย่างไรก็ตามการเทรด CFD นั่นต้องรับความเสี่ยงที่สูงกว่าได้  ดังนั้นตัวคุณเองต้องมีวินัยในการลงทุนและไม่ลงทุนจนเกินตัว และในส่วนเงินที่คุณนำมาลงทุนนั้นควรเป็นเงินเย็น ไม่ควรไปยืมเงินใครเพื่อมาลงทุน

ทำไมเทรดกับโบรกเกอร์ Mitrade?

หากเทรด GOLD CFD กับ Mitrade จะได้เปรียบมากกว่าโบรกเกอร์อื่น ๆ ดังนี้

1. Mitrade มีความน่าเชื่อถือสูง เนื่องจาก MiTrade ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานด้านการเงินของเกาะเคย์แมน (CIMA) ด้วยใบอนุญาต SIB เลขที่ 1612446 ควบคุมโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง ปฏิบัติตามกฏระเบียบที่เข้มงวดและให้บริการด้วยความโปร่งใส

2. Mitrade เป็นโบรกเกอร์สัญชาติออสเตรเลีย Forex และ CFD ที่นิยมมากที่สุดในหมู่นักลงทุนไทย ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 1,100,000+ รายทั่วโลก

3. เงินทุนของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ในบัญชีทรัสต์แยกต่างหากจากบัญชีบริษัท หากในกรณีที่ MiTrade ล้มละลาย เงินทุนลูกค้าก็ยังคงถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและถูกส่งกลับคืนได้ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเป็นห่วงความปลอดภัยของเงินทุน

4. Mitrade มีระบบป้องกันเงินทุนติดลบ จัดหาเครื่องมือสำหรับจัดการความเสี่ยงที่ดีให้ลูกค้าใช้งานได้ฟรี

5. Mitrade รองรับ Internet banking และ QR Code ฝากเงินะและถอนเงินผ่านธนาคารไทยได้

6. Mitrade มีฝ่ายบริการลูกค้าออนไลน์ภาษาไทยที่ยอดเยี่ยม ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ

7. เลเวอเรจที่มีความยืดหยุ่น (1/2/5/10 เท่า) สามารถปรับเองได้

8. มีขนาดซื้อขายต่ำสุดคือ 0.01 ล็อต ช่วยลดเงินทุนเริ่มต้นของเทรดเดอร์

9. Mitrade ค่าคอมมิชชั่น 0 ค่าธรรมเนียมถูก สเปรดต่ำ ช่วยลดต้นทุนในการเทรด ให้เราได้ทำกำไรเพิ่มมากขึ้น

10. ฟรีบัญชีเทรดทดลองด้วยเงินเสมือนจริง $50,000 ดอลล่าร์

รับฟรีทันที! เงินเสมือนจริง $50,000

บัญชีเทรดทดลองมีฟังก์ชันมากมาย เหมือนเราได้เทรดบัญชีเทรดจริงเลย เช่น เมนูเทรด ข้อมูล และระบบการดำเนินการต่าง ๆ นอกจากนี้บัญชีเทรดทดลองยังมีเงินจำนวน USD50,000 โดยไม่จำเป็นต้องฝากเงินเข้าบัญชีเทรดทดลอง เพื่อให้นักลงทุนได้ทำการทดลองเทรดก่อนจะเริ่มใช้งานบัญชีเทรดจริงนั่นเอง

ข้อดี ข้อเสียในการซื้อทอง

ข้อดีในการซื้อทอง

1. ทองคำมีสภาพคล่องการซื้อขายสูง เป็นสินทรัพย์มีค่าเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนกันได้ในทุกประเทศทั่วโลก มีทั้งตลาดหลักและตลาดรอง รองรับการซื้อขายแลกเปลี่ยน หากต้องการถอนการลงทุนหรือนำออกขายเปลี่ยนเป็นเงินสด ก็สามารถทำได้ทันทีที่ต้องการ  

2. ยามเศรษฐกิจตกต่ำก็ยังสามารถลงทุนในทองคำได้ ทองคำยังคงเป็นวัตถุที่สามารถรักษามูลค่าของตัวเองได้ดี ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นใด สามารถเป็นแหล่งพักพิงเงินและรักษามูลค่าเงินลงทุนไม่ให้เกิดการด้อยค่าในยามเศรษฐกิจตกต่ำได้เป็นอย่างดี

3.ราคาทองคำที่ซื้อขายเกิดขึ้นจากกลไกของตลาดโลก ซึ่งมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกันระหว่างวันสูงมาก เกิดราคาทองคำที่เป็นมาตรฐานใช้อ้างอิงกันไปทั่วโลก ขึ้นลงไปตามกลไกตลาด ซึ่งสะท้อนมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ นักลงทุนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารและบทวิเคราะห์ทองคำจากผู้เชี่ยวชาญ จะสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาทองคำในอนาคตกำลังจะเป็นไปในทิศทางใด นักลงทุนจึงสามารถสร้างผลกำไรจากการลงทุนได้โดยไม่ยาก

4. นำมาทำเป็นเครื่องประดับทองรูปพรรณ สร้างความสวยงามได้ ประโยชน์ของทองคำไม่เพียงแค่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินตราได้เท่านั้น แต่ทองคำยังมีการนำมาทำเป็นเครื่องประดับทองรูปพรรณใช้สวมใส่อย่างสวยงามผู้คนจำนวนมากลงทุนซื้อสะสมทองรูปพรรณ ที่ไม่เพียงแต่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ลงทุนซื้อทองรูปพรรณเก็บสะสม แต่ผู้ลงทุนยังสามารถนำออกทองรูปพรรณเหล่านั้นออกสวมใส่เพื่อความสวยงามในโอกาสต่าง ๆ สร้างความสุขทางใจให้แก่ผู้มีไว้ในครอบครอง

ข้อเสียในการซื้อทองคำ

1. จัดเก็บยาก การเก็บรักษาทองคำด้วยตนเองมีต้นทุนการเก็บรักษาที่สูง มีการเก็บรักษาไว้กับตัวย่อมไม่ปลอดภัยและโอกาสสูญหายมีค่อนข้างสูง การซื้อตู้เซฟมาใช้เก็บรักษาหรือฝากทองไว้กับสถานที่รับฝากโดยมีค่าบริการเพิ่มต้นทุนการลงทุน และหากเก็บไว้ไม่ดีก็อาจจะทำให้ทองคำเสียหาย เสียรูป มีรอยขีดข่วน มีตำหนิได้ด้วย

2. มีความเสี่ยงในการถูกโจรกรรม หากเก็บไว้ที่ร้านก็ต้องเสียค่าจัดเก็บ แต่ปัจจุบันก็มีร้านจำหน่ายทองหลายแห่งที่ให้บริการเก็บรักษาทองคำที่ซื้อจากร้านโดยไม่คิดค่าบริการฝากทองด้วยเช่นกัน

3. ช่องทางในการทำกำไรค่อนข้างจำกัด ทำได้เพียงซื้อในราคาที่ถูกกว่าและรอขายในราคาสูง ทองคำเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนเพียงทางเดียวคือส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย ไม่มีผลตอบแทนการลงทุนในรูปแบบของดอกเบี้ยเช่นเงินฝากธนาคาร หรือผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล เช่นการถือครองหุ้น

4. ต้องใช้เงินจำนวนมากถึงจะซื้อมาเก็บได้ เพราะทองคำมีมูลค่าทางตลาดที่สูง ทั้งยังมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายทองคำ ทั้งในรูปของค่าบล็อกหรือค่ากำเหน็จ

where to buy gold

10 ข้อคำแนะนำของฉัน

สำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นลงทุนในทองคำจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนตลอดเวลาตามปัจจัยทางเศรษฐกิจโลก เช่น ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ และนโยบายการเงินของธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลก และในการซื้อทองคำนั้น เราควรพิจารณาถึงข้อควรระวัง ดังนี้

1. ซื้อทองคำตอนไหนดี

ปัจจัยที่นำมาใช้ประเมินว่าควรจะเข้าซื้อทองตอนไหนจึงจะดีที่สุด ส่วนใหญ่จะพิจารณาจากข้อมูลสถิติของราคาทองควบคู่กับปัจจัยพื้นฐานและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งช่วงที่ดีที่สุดในการซื้อทองคำ คือ ช่วงที่ราคาทองลดลงถึงจุดต่ำสุดแล้วและกำลังมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางขาขึ้น เราอาจจะดูกราฟวิเคราะห์เชิงเทคนิคประกอบในการซื้อทองคำด้วยเพื่อให้ซื้อทองคำได้ในช่วงที่ราคาถูกที่สุด

2. ราคาทองคำ

ราคาซื้อขายกันตามร้านจำหน่ายทองจะอิงราคาประกาศของสมาคมค้าทอง ส่วนราคาที่ซื้อขายกันในตลาดเทรดทอง จะเป็นไปตามกลไกของตลาดทองคำโลกระหว่างเปิดการเทรด เป็นไปได้ที่ราคาจะสูงหรือต่ำกว่าราคาประกาศของสมาคมค้าทอง ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในการซื้อขายของตลาดเทรดทองและปัจจัยต่างๆที่ส่งผลกระทบในแต่ละวัน ทั้งนี้ราคาประกาศของสมาคมค้าทองกับราคาในตลาดเทรดทองมักมีความสัมพันธ์กันแบบสอดคล้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

3. ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำขึ้นลง

หากค่าสกุลเงินอ่อนค่าลง นักลงทุนมักจะย้ายเงินทุนไปซื้อทองคำแทนเสมอ ส่งผลให้ราคาทองคำสูงขึ้น แต่หากค่าสกุลเงินแข็งค่านักลงทุนจะถอนเงินลงทุนในทองคำไปซื้อค่าเงินหรือผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นแทน ดังนั้นการซื้อทองคำเพื่อลงทุนนั้น เราควรต้องสังเกตเทรนด์ของตลาดค่าสกุลเงินต่าง ๆ ประกอบด้วย

4. ประเภทของทองคำ

ทองคำที่พบเห็นในตลาด มีด้วยกัน 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ทองคำแท่งกับทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง ลักษณะจะเป็นแท่งขนาดต่าง ๆ ตามบล็อกที่ใช้ผลิต แยกขนาดตามปริมาณน้ำหนัก ได้รับความนิยมซื้อขายเพื่อการลงทุนหรือเพื่อการเก็บออมเป็นสำคัญ ทองรูปพรรณเป็นทองที่แปรรูปออกมาเป็นเครื่องประดับ เช่น สร้อยคอ สร้อยแขน แหวน ต่างหู จี้ และอื่น ๆ ได้รับความนิยมใช้สวมใส่เป็นเครื่องประดับสวยงามในตัวด้วยได้

5. มาตรฐานความบริสุทธิ์ทองคำ

ประเทศไทยนิยมซื้อขายทองคำกันที่มาตรฐานความบริสุทธิ์ 96.50% และ 99.99%  สำหรับทองคำ 96.50% นั้น เป็นทองคำมีส่วนผสมเงินและทองแดง เนื้อทองมีความแข็ง เมื่อแปรรูปเป็นเครื่องประดับ ได้ทั้งความสวยงามและความแข็งแรงทนทาน และสำหรับทองคำ 99.99% เป็นทองคำที่มีค่าความบริสุทธิ์สูงสุดในบรรดาทองคำด้วยกัน และได้รับการยอมรับอย่างเป็นสากล รัฐบาลของหลาย ๆ ประเทศใช้ทองคำ 99.99% วางเป็นทุนสำรองเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าสกุลเงินและการออกพันธบัตรของรัฐ

6.  มาตรวัดน้ำหนักทองคำ

ประเทศไทยใช้มาตรวัดหน่วยของทองคำเป็น “บาท” 1 บาท เท่ากับน้ำหนักทองคำ 15.244 กรัม ส่วนทองคำซื้อขายกันในตลาดโลกใช้หน่วยเป็น “ออนซ์”  1 ออนซ์ เท่ากับน้ำหนักทองคำ 31.103 กรัม ในการซื้อขายทองคำนั้น เราต้องสังเกตหน่วยให้ดี การแปลงหน่วยวัดที่แตกต่างกันจะใช้วิธีคำนวณตามสัดส่วนและอิงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน

7. ตลาดซื้อขายทองคำ

ห้างทองทุกร้านถือเป็นตลาดซื้อขายทองคำ ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณสามารถซื้อขาย แลกเปลี่ยนกันได้กับทุกร้าน แต่การซื้อและขายกับร้านเดียวกันมักจะดีกว่าเสมอ เละไม่ถูกกดราคามากนัก

ส่วนตลาดเทรดทองเป็นตลาดทองอีกรูปแบบหนึ่ง แต่เป็นการซื้อขายทองคำด้วยราคาทองที่ผู้เข้าเทรดส่วนใหญ่มุ่งเน้นแสวงหากำไรเป็นเงินส่วนต่างของราคาทองที่เทรดกัน ไม่ได้มุ่งที่จะเอาทองมาไว้ในครอบครองเหมือนการซื้อทองเก็บสะสม

8. ค่าธรรมเนียมการซื้อทอง

การซื้อทองจะมีการคิดค่าธรรมเนียมต่างหากจากราคาตามน้ำหนักทอง ซึ่งค่าธรรมเนียมของทองคำแท่งจะเรียกว่า ค่าบล็อก ร้านค้าปลีกทองคำส่วนใหญ่จะคิด 250 – 300 บาทต่อทองคำหนึ่งบาท ส่วนค่าธรรมเนียมของทองรูปพรรณจะเรียกว่าค่ากำเหน็จ มักอยู่ที่ 600 – 1200 บาทต่อทองคำหนึ่งบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลวดลายและความยากง่ายของการทำทองรูปพรรณชิ้นนั้น ๆ  ในการซื้อทองเราควรคำนึงถึงค่าบล็อกและค่ากำเหน็จเป็นต้นทุนในการลงทุนทองคำรวมเข้าไปด้วย

9. ควรเก็บทองไว้นานแค่ไหน

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่เราสามารถเก็บไว้ได้ตลอดชีวิต ส่งทอดต่อถึงรุ่นลูก หลาน เหลน โหลนไปได้ยาว ๆ สำหรับนักลงทุนทองคำ เมื่อเห็นว่ามีกำไรก็จะขายทำกำไรทันที แล้วค่อยเริ่มซื้อทองคำมาสะสมใหม่ หรือเมื่อเห็นว่าการโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อย่างอื่นนั้นจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า แต่ถ้าหากยังไม่มีแผนจะใช้เงินเลยอาจเก็บไปเรื่อยๆ เพื่อตอนเกษียณที่ไม่ได้ทำงานและไม่มีรายได้แล้ว แต่ก็ยังมีทรัพย์สินและสามารถเก็บเป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลานได้

10. ความต้องการในการซื้อทองคำเพื่อถือหรือเพื่อลงทุน

การเลือกซื้อทองในแต่ละความต้องการให้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน หากซื้อได้ตรงตามความต้องการทั้งประเภทและปริมาณอย่างถูกที่ถูกเวลาก็จะได้ประโยชน์ที่มากกว่า เช่น หากซื้อเพื่อการลงทุนทองคำ นักลงทุนต้องการผลตอบแทนเป็นเงินกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย ปัจจัยราคาเป็นสาระสำคัญของนักลงทุน การตัดสินใจเข้าซื้อจะเกิดเมื่อเชื่อว่าแนวโน้มราคาทองในระยะอันใกล้ ระยะกลางหรือระยะยาว กำลังมุ่งไปในทิศทางสูงขึ้น และพร้อมที่จะขายทำกำไรทันทีเมื่อได้ราคาตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่หากซื้อเพื่อการออม ไม่ได้ให้ความสำคัญกับราคามากนัก แต่จะซื้อเก็บและคาดหวังว่าทองคำที่ออมสะสมจะเป็นหลักประกันความมั่นคงให้กับตนเองในอนาคต

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุน เพื่อให้เข้าใจในแพลตฟอร์มของ MiTrade ได้ดีขึ้น การเรียนรู้ใด ๆ เริ่มต้นจากการลงมือปฏิบัติจริงนะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติม>>>

วิเคราะห์ราคาทองคําวันนี้ 2022 ผลจากสงครามยูเครนต่อ XAUUSD

**คำเตือน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

เนื้อหาในบทความเป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ เนื้อหาของบทความนี้ใช้สำหรับประกอบการตัดสินใจก่อนการลงทุนเท่านั้น ผู้อ่านควรศึกษาปัจจัยประกอบจากแหล่งข้อมูลหลายแห่งก่อนการตัดสินใจ และใช้วิจารณญาณส่วนบุคคลในการพิจารณาเลือกโบรกเกอร์ลงทุนที่เหมาะสมแก่ท่าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

รับฟรีทันที! เงินเสมือนจริง $50,000 เพื่อฝึกฝนการเทรดกับ Mitrade!